ตัดสินธนาธร – กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ขอให้พิจารณาว่าสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ วันที่ 20 พ.ย.นี้ เป็นเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทยอีกครั้ง

ไม่เพียงเพราะนายธนาธรเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคใหม่ที่เพิ่งลงเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2562 และนำพรรคคว้าที่นั่งในสภาได้สูงเป็นอันดับ 3 รองจากพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ

ไม่เพียงเพราะยังเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ ได้รับการจับตาจากสื่อมวลชนและรัฐบาล ต่างประเทศ

ยังเป็นบุคคลที่นำเสนอแนวคิดการเมืองแบบเสรีนิยมและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่อย่างชัดเจน จนเป็นเป้าหมายการโจมตีจากฝ่ายอนุรักษนิยมอย่างเข้มข้นมาโดยตลอด

ทั้งการโจมตีด้วยความคิดเห็นด้วยอคติ ไปจนถึงด้วยข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์

เฟกนิวส์ที่พรรคอนาคตใหม่เก็บข้อมูลและแถลงผลต่อสังคม ระบุความเชื่อมโยงระหว่างเฟกนิวส์ในโลกออนไลน์ และคู่แข่งทางการเมือง

ประเด็นที่น่าสนใจคือการถือครองหุ้นสื่อมวลชนของนักการเมืองที่ยังเคลื่อนไหวและส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการโจมตี ได้ถูกตรวจสอบอย่างเท่าเทียมกันหรือไม่ และได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเฉกเช่นเดียวกันหรือไม่

เพราะหากสื่อมวลชนถูกใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการกระจายข้อมูลเท็จ ปลุกอคติ ก่อความเกลียดชัง ย่อมส่งผลร้ายต่อสังคม

ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในยุคขวาจัดที่เกิดเหตุความรุนแรงทางการเมือง

กรณีของนายธนาธรถือหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย จำกัด ศาลจะวินิจฉัยว่าเข้าลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. หรือไม่

หากศาลวินิจฉัยว่าไม่ผิด นายธนาธรจะปฏิบัติหน้าที่ส.ส.ได้ตามปกติ หรือหากตัดสินว่าผิดตามร้อง นอกจากพ้นสมาชิกภาพการเป็นส.ส. จะมีโทษตามมาตรา 151 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.

กรณีผู้สมัครรู้ตัวว่าไม่มีสิทธิแต่ยังสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

คดีนี้จะนำไปสู่การตรวจสอบนักการเมืองและสื่ออื่นๆ ต่อไป