รดน้ำที่ยอด
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
รดน้ำที่ยอด – รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งล่าสุด ด้วยการอัดฉีดวงเงินออกมาอีกประมาณ 1.5 แสนล้านบาท
แต่กระนั้นก็ยังไม่สามารถทำให้สังคมหรือตลาดตื่นเต้น ตื่นตัว หรือคึกคักกระฉับกระเฉงขึ้นมาได้อย่างที่ต้องการจะเห็น
ประการหนึ่ง เป็นเพราะมาตรการกระตุ้นที่ผ่านมาหลายครั้งยังไม่สามารถฉุดดึงหรือประคองให้ ภาวะเศรษฐกิจกลับขึ้นมาเติบโตได้ ทำให้ความมั่นใจที่มีต่อมาตรการกระตุ้นทั้งหลายจึงไม่เต็มเปี่ยมอย่างที่ รัฐบาลต้องการจะเห็น
จะให้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างความมั่นใจได้ จะต้องมีผลในทางปฏิบัติที่เป็นจริงให้เห็นก่อน
ประการหนึ่ง ความไม่มั่นใจอีกส่วนหนึ่ง เกิดขึ้นจากความไม่เป็นเอกภาพใน การดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลและภาครัฐเอง
แม้แต่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่เคยเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลชุดที่แล้ว ก็ระบุว่า ในปัจจุบันการทำงานภายในรัฐบาลไม่ได้สอดประสานไปในทิศทางเดียวกัน เหมือนเครื่องยนต์ที่มีอยู่ 4 เครื่อง แต่ทำงานอยู่เพียงเครื่องเดียว
ความไม่เป็นเอกภาพอีกประการหนึ่งที่เห็นชัด ก็คือนโยบายที่ขัดกันระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย ขณะที่ฝ่ายแรกจะใช้การกระตุ้นกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์เข้ามาผลักดัน เศรษฐกิจ
ฝ่ายหลังยังคงนโยบายเข้มงวดต่อการปล่อยสินเชื่อในภาคธุรกิจนี้
ประการหนึ่ง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาทั้งหมดเป็นเสมือนการ “รดน้ำ ที่ยอด” ของต้นไม้
นั่นคือกระตุ้นให้เกิดการบริโภคและการสร้างหนี้ โดยหวังว่าพลังของการจับจ่ายใช้สอยจะไปฉุดดึงภาคการผลิตให้กระเตื้องขึ้น
แต่มีน้อยมาตรการมากที่จะเน้นไปในเรื่องการสร้างงาน สร้างอาชีพ และการเพิ่มรายได้ อันเป็นรากฐานสำคัญยิ่งกว่า
ฉะนั้น จะเรียกความเชื่อมั่นของคนส่วนใหญ่กลับคืนมา อย่างน้อยรัฐบาลต้องกำจัด จุดอ่อนที่มีอยู่ทั้งสามประการนี้ให้หมดหรือลดลงไป
ไม่เช่นนั้นแล้วผลของมาตรการใดๆ ก็จะออกมาซ้ำรอยเดิม