FootNote : รอยร้าว ภายใน พรรคร่วมรัฐบาล สนิม ปรากฏ บน”เรือเหล็ก”คสช.

ความพ่ายแพ้ของรัฐบาลต่อญัตติด่วนตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึก ษาทบทวนผลกระทบจากประกาศและคำสั่งคสช. รวมถึงคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44
ถือว่าเป็นความล้มเหลวอย่างรุนแรงร้ายกาจอย่างยิ่งแล้วในทาง การเมือง
เพราะมีคำสั่งจาก “เบื้องบน” เด่นชัดอย่างยิ่งว่าญัตตินี้ผ่านไม่ได้
เพราะมติภายในคณะกรรมการประสานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก็ออกมาอย่างเด่นชัดว่าจะคว่ำญัตตินี้เพื่อไม่ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญอย่างเด็ดขาด
แต่แล้วมติกลับออกมาเป็น 236 ต่อ 231 อันเท่ากับจะนำไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ
และเมื่อเล่นเกมให้มีการลงมติใหม่สภากลับ “ล่ม”

การล่มเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน อาจอะลุ้มอะล่วยมองได้ว่าเกิดอาการสะดุด แต่เมื่อมีการเรียกประชุมใหม่ในเช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน ก็ยังไม่ครบองค์ประชุมอีก
นี่จึงไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นประสิทธิภาพการทำงานของ “วิปรัฐบาล” เท่านั้น
หากที่สำคัญอย่างที่สุดคือปัญหาในเชิง “เอกภาพ”
ความล้มเหลวที่เห็นในตอนค่ำของวันที่ 27 พฤศจิกายน น่าจะเป็นบทเรียนอย่างสำคัญ และเวลาอีก 1 คืนน่าจะเป็นห้วงแห่งการพลิกฟื้นเพื่อแก้คืนความผิดพลาด
สภาพการณ์กลับกลายเป็นตอกย้ำอย่างเด่นชัดมากยิ่งขึ้นของความล้มเหลว เท่ากับสะท้อนให้เห็นว่าปัญหามิได้มาจากฝ่ายค้านหากแต่มาจากภายในของรัฐบาลเอง
นี่คือสัญญาณความขัดแย้งที่ดำรงอยู่ภายในพรรคร่วมรัฐบาล

สัญญาณนี้อ่านได้จากตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เพิ่งเดินทางกลับและมาประสบกับปัญหาอันหนักหนาสาหัสใหม่ในทางการเมือง
เพราะว่าเสียงที่ขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นั้นแจ่มชัด
แจ่มชัดว่าเป็นเสียง ส.ส.จำนวน 251 เสียง
เมื่อสำรวจจำนวนที่ขาดหายไปภายใน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันก็เด่นชัดว่าดำเนินไปอย่างไร
โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน