แสงแห่งสปอตไลต์กำลังฉายจับไปยังเงาร่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มากเป็นพิเศษ

ไม่ว่าเดินทางไป “งานบุญ” ที่ “นครพนม”

ไม่ว่าร่วมในการเสวนาทางวิชาการ “พุทธวิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งการเมืองในปัจจุบัน” ที่ วัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์

มองเท่ากับเป็นการ “เปิดตัว”

วิเคราะห์ไกลยิ่งไปกว่านั้นว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คือ ผู้ที่จะกุมบังเหียนพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งประมาณปลายปี 2561

ด้วยคุณสมบัติในการประสาน 10 ทิศ ไม่ว่าทหาร ไม่ว่านักธุรกิจ ไม่ว่านักการเมืองด้วยกัน

อาจมี “บางคน” หงุดหงิด ไม่เต็มใจ

แต่การเลือก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ก็เหมือนกับการ เลือก นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2550

ทำไมต้องเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

หากเปรียบเทียบกับ นายสมัคร สุนทรเวช ก็ต้องยอมรับว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มิใช่คนอื่นไกล

นายสมัคร สุนทรเวช เริ่มที่”ประชาธิปัตย์”

จากนั้น แยกจาก”ประชาธิปัตย์”มาจัดตั้ง”ประชากรไทย”เป็นของตนเอง

ยังสามารถเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชนได้

แล้วเหตุใด คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งแม้จะเริ่มต้นที่ พรรคพลังธรรม แต่ก็เริ่มต้นที่”ไทยรักไทย”มาตั้งแต่การเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544

การเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 จำเป็นต้องเว้นวรรค

การเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 อาจยังไม่เหมาะสมเพราะมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แล้ว

แต่ปลายปี 2561 น่าจะเป็นโอกาส

 

พลันที่ “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560″ ประกาศและบังคับใช้ การขยับของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คือการเสนอตัว

1 เสนอตัวต่อ”พรรคเพื่อไทย” 1 เสนอตัวต่อ”ประชาชน”

ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ เสนอตัวคสช. และเสนอตัวพรรคการเมืองอื่น

รับได้หรือไม่กับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน