ทุกคนกำลังมีความสุข?
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
กิจกรรมการเมืองที่มีประชาชนเริ่มแสดงออกพื้นที่สาธารณะของกรุงเทพฯ กลับมาอีกครั้ง และทำให้เกิดความเห็นที่แตกต่างกันไป
ส่วนหนึ่งเห็นด้วย เพราะเป็นการแสดงออกปกติตามวิถีทางประชาธิปไตย เมื่อมีเรื่องคับข้องใจในเกณฑ์หรือกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ไม่เหมาะสมพอหรือไม่ยุติธรรมเพียงพอแก่ฝ่าย ประชาชนก็มีสิทธิสะท้อนความเห็นออกมาได้โดยไม่ใช้ความรุนแรง
กลุ่มคนอีกส่วนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแสดงออกของกลุ่มคน เพราะวิตกกังวลว่าจะกระทบความสงบเรียบร้อยของสังคม บ้างเห็นว่าช่วงเวลาไม่เหมาะ เพราะเข้าสู่ช่วงใกล้ฉลองต้อนรับปีใหม่
ประเด็นนี้อยู่ที่ว่าสังคมไทยกำลังก้าวเข้าสู่ปีใหม่ด้วยการแบ่งปันความสุขที่เป็นธรรมหรือไม่
ความสุขของประชาชนที่ถูกตีกรอบมาตลอดช่วงรัฐประหาร 2557 คือการปลอดจากกิจกรรมทางการเมือง
ไม่ว่าการแสดงออกเพียงเล็กน้อยเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร เช่น กินแซนด์วิช ชูสามนิ้ว อ่านหนังสือ 1984 ฯลฯ ถูกจับจ้องว่าเป็นความพยายามทำลายความสุขและสร้างความแตกแยกให้คนในสังคม
ปัจจุบัน หลังผ่านพ้นการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ที่ผสมพรรคการเมืองเข้ากับคณะรักษาความสงบแห่งชาติแล้ว การนิยามความสุขของประชาชนยังถูกตีกรอบแบบเดิม
จึงมีการโจมตีว่า กิจกรรมการเมืองต่างๆ ที่ไม่ได้จัดโดยรัฐบาลหรือไม่ได้ส่งผลดีต่อรัฐบาล ล้วนก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ทำให้ประชาชนแบ่งข้างเลือกฝ่าย
ขณะเดียวกันก็ใช้วิธีกล่าวโทษใส่ร้ายประชาชนที่ออกไปเคลื่อนไหวแสดงความเห็นทางการเมืองตามปกติ ว่าทำลายความสุข
คําถามที่ชวนคิดว่า กิจกรรมการแสดงออกทางการเมืองช่วงเวลานี้ เหมาะสมหรือไม่ เมื่อช่วงปีใหม่นี้ทุกคนกำลังมีความสุข กลายเป็นคำถามต่อไปว่า ทุกคนกำลังมีความสุขจริงหรือ
เมื่อพรรคการเมืองที่ประชาชนเลือกตัวแทนเข้าไปนั่งในสภาจำนวนมาก กำลังเข้าสู่เส้นทางที่อาจถูกยุบอีกครั้ง
เมื่อมีกลุ่มประชาชนแสดงออกว่าไม่ต้องการให้พรรคการเมืองที่ตนเองเลือกถูกกันให้พ้นจากสภา กลับถูกกล่าวหาว่าไปลงถนนช่วยคนผิด
เมื่อเศรษฐกิจที่ซึมลึก แต่หน่วยงานรัฐบอกว่าขยายตัวดีขึ้น เพราะเก็บภาษีได้มากขึ้น ส่วนโครงการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษก็จะทำให้กลุ่มทุนใหญ่ได้รับประโยชน์มหาศาล เริ่มมีเสียงคัดค้านจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ทุกคนกำลังมีความสุขจริงหรือ เป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยาก