FootNote:โดมิโนการเมืองพลังประชารัฐ จากเลขาธิการถึงหัวหน้าพรรค
คล้ายกับความพยายามในการยื้อตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐให้อยู่กับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ กระทำด้วยความรัก ความมั่นใจในศักยภาพของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อย่างเต็มเปี่ยม
ไม่ใช่หรอก
แต่ที่จำเป็นต้องออกแรง เพราะว่าเมื่อใดที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ต้องหลุดไปจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค
นั่นหมายถึงโอกาสที่ นายอุตตม สาวนายน จะต้องหลุดไปด้วย
เพราะว่า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็เป็น 1 ใน 4 ยอดกุมารอันส่งมาจากทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมในการก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐกับ “กลุ่มสามมิตร”
เมื่อระดับ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ยังรักษาตำแหน่งไว้ไม่ได้แล้วอีก 3 คนจะเหลืออะไรอีกเล่า
จำเป็นต้องยอมรับว่าความขัดแย้งแย่งชิงตำแหน่งในพรรค ตำแหน่งในรัฐบาล ดำรงคงอยู่ตั้งแต่ก่อนและภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาแล้ว
เด่นชัดว่าเป็นการต่อสู้ เป็นการแย่งชิงระหว่างกลุ่ม 4 ยอดกุมารกับกลุ่มสามมิตร
เด่นชัดว่า การจัดสรรตำแหน่งในรัฐบาลก่อนและหลังวันที่ 5 มิถุนายน มีการแย่งชิงว่าใครจะได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
ผลก็คือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ชนะ ผลก็คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต้องถอยไปอยู่กระทรวงอุตสาหกรรม
การต่อสู้ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคที่เกิดขึ้นเสมอเป็นเพียงการทดสอบกำลังทางการเมือง และหากประสบผลสำเร็จ
ก็ต้องต่อยาวไปยังตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ไม่ว่าหัวหน้าพรรค ไม่ว่ารองหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเลขาธิการพรรค ไม่ว่ารองเลขาธิการพรรค ย่อมมองออก อ่านทะลุ
ตำแหน่งเลขาธิการพรรคเสมอเป็นเพียงด่านแรก
ด่านต่อไปอยู่ที่ตำแหน่งอื่นๆภายในไม่ว่ารองเลขาธิการ ไม่ว่ารองหัวหน้า
และที่สุดก็คือ ตำแหน่งหัวหน้าพรรค
เมื่อมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองเลขาธิการพรรค
การปรับเปลี่ยน”กระทรวง”ย่อมตามมาแน่นอน
จุดหมายปลางทางของการกดดันในพรรคพลังประชารัฐจึงอยู่ที่การปรับครม.
นี่คือ โดมิโนอันทรงพลังยิ่งในทางการเมือง