ปรับตัวปีใหม่
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ปรับตัวปีใหม่ – แม้ช่วงเวลานี้เข้าสู่การเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสและเริ่มนับถอยหลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน ปีใหม่ แต่บรรยากาศทั่วไป โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจไม่ชื่นมื่นนัก
เมื่อเร็วๆ นี้ มีอีกบริษัทที่ติดประกาศแจ้งพนักงานว่า ปิดกิจการผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ ยานยนต์และเลิกจ้างพนักงาน มีผลต่อชีวิตคนทำงานนับพันคนที่ว่างงานโดยทันที
สถานการณ์เช่นนี้นับเป็นความทุกข์ที่น่าเห็นใจสำหรับผู้ตกงาน และเป็นความกังวลใจสำหรับประชาชนทั่วไปในช่วงการเริ่มต้นปีใหม่
ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปีใหม่ หรือปี 2563 ว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.8 ด้วยความไม่สดใสนัก
ผู้ว่าฯแบงก์ชาติระบุว่าเป็นตัวเลขที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทยควรต้องอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4
สำหรับสาเหตุหรือปัจจัยฉุดรั้งเป็นไปตามที่ผู้คนทั่วไปรับทราบว่า มาจากเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกชะลอตัว แต่ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในประเทศโดยตรง คือ ปัญหาเชิงโครงสร้างของไทยที่ต้องปฏิรูป เพื่อเอื้อให้ภาคธุรกิจได้ปรับตัว
รวมถึงปฏิรูปด้านการศึกษาเพื่อเพิ่มพัฒนาทักษะใหม่ อันจะส่งผลต่อประสิทธิภาพแรงงานไทย
ถ้าทำได้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวกว่าศักยภาพ
ส่วนความหวังถึงบทบาทภาครัฐในปี 2563 ว่าจะเป็นแรงส่งสำคัญในการขยายตัวเศรษฐกิจ โดยเฉพาะงบประมาณปี 2563 ที่คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี จะทำให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่กลับมามีทิศทางดีขึ้น
มีเสียงติติงจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านทั้งที่อยู่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ และที่ไม่ได้อยู่ ว่าการจัดงบหลายส่วนไม่ตรงกับความสำคัญและความจำเป็น มีจุดอ่อนและบกพร่องมากมายควรแก้ไข
หากฝ่ายรัฐบาลเปิดใจให้กว้าง รับฟัง และแก้ไขเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เงินก้อนมหาศาล ที่กำลังจะไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจจะได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อประชาชนมาก ยิ่งขึ้น
อย่างน้อยควรแสดงให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลพร้อมปรับและรับฟัง มากกว่ามัวยึดแต่สิ่งที่ตนเองทำถูกต้องแล้ว