ค่าเงินบาท

คอลัมน์…บทบรรณาธิการข่าวสด

ค่าเงินบาท – เมื่อวันปิดตลาดทำการด้านการเงิน ณ สิ้นปี 30 ธันวาคม 2562 ค่าเงินบาทแข็งตัวทะลุด่านจิตวิทยา 30 บาท/เหรียญสหรัฐ ไปปิดที่ 29.92 บาท/เหรียญสหรัฐ

ส่งให้เกิดความกังวลขึ้นในภาคการเงินและภาคเศรษฐกิจต่างๆ ว่าทิศทางค่าเงินบาทใน ปี 2563 จะแข็งตัวขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่นี้หรือไม่ และจะส่งผลกระทบอะไรต่อประชาชนส่วนใหญ่บ้าง

เพราะการ “แข็งค่าเกินจริง” ของเงินบาทนั้นมีข้อพิสูจน์อย่างชัดเจนแล้วว่า ทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อภาคการส่งออก การท่องเที่ยวและสินค้าเกษตร อันส่งผลต่อเนื่องไปถึงประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ

หรือคนกว่าครึ่งในตลาดแรงงาน

ส่วนผลดีที่ควรจะเกิดขึ้นจากค่าเงินบาทแข็งตัว อันได้แก่การทำให้ราคาเชื้อเพลิงในประเทศลดลง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหรือแก๊สธรรมชาติที่นำเข้า ก็ไม่เป็นไปตามที่หวังหรือไม่เป็นไปตามสัดส่วนที่ควรจะเป็น

ผู้ที่ได้ประโยชน์จากการที่ค่าเงินบาทแข็งตัวผิดปกติ จึงมีแต่กลุ่มที่มีความสามารถออกไปซื้อหาอสังหาริมทรัพย์หรือลงทุนในต่างประเทศ กลุ่มผู้นิยมการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และกลุ่มผู้ซื้อสินค้า “แบรนด์เนม” จากต่างประเทศ

ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่ม “คนมีสตางค์” อันเป็นคนจำนวนน้อยในสังคม

ในขณะที่ผู้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งตัว คือคนชั้นกลางและชั้นล่างทางเศรษฐกิจ

ที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

ภาระหน้าที่ของรัฐบาล และธนาคาร แห่งประเทศไทยในเฉพาะหน้าก็คือ จะทำอย่างไรมิให้เกิดความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลของตลาดเงิน

ในขณะที่ในระยะกลางและระยะยาว จะต้องทำให้ค่าเงินบาทอยู่ในระดับที่ “สมจริง” สะท้อนภาพที่แท้จริงทางเศรษฐกิจของประเทศ และไม่เป็นตัวซ้ำเติมให้ผู้เดือดร้อนทางเศรษฐกิจ

เพราะกรณีค่าเงินบาทไม่ใช่ปัญหา “ความผันผวนชั่วคราว” อย่างที่ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามออกมาปลอบใจ

แต่เป็นความผิดพลาดทางนโยบายอย่างชัดเจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน