บทบรรณาธิการ
การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐอเมริกา อย่างไม่เป็นทางการ ที่มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ระหว่าง 29 ก.ย.-1 ต.ค. เป็นวาระการประชุมสำคัญ
เพราะสหรัฐต้องการตอกย้ำว่าภูมิภาคอาเซียนนั้นสำคัญต่อบทบาทหน้าที่ของสหรัฐ และการปรับสมดุลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะด้านความมั่นคง
ประเด็นข่าวที่สื่อต่างประเทศสนใจเป็นพิเศษคือ ความสัมพันธ์ระหว่างมหามิตรสหรัฐกับฟิลิปปินส์ยังคงเดิมหรือไม่ หลังเปลี่ยนตัวผู้นำคนใหม่ที่ไม่ค่อยมีความเป็นสากลนัก โดยเฉพาะมาตรการปราบปรามยาเสพติดและการพูดการจา
ส่วนของไทย งบประมาณใช้จ่ายในการไปประชุมครั้งนี้อาจเป็นประเด็นข่าวที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ
ค่าใช้จ่ายของคณะเดินทางไปประชุมครั้งนี้ 38 คน 20 ล้านบาทนั้น มีข้อมูลว่าส่วนหลักมาจากการเช่าเหมาลำเครื่องบินการบินไทยมูลค่า 19 ล้านบาท
ส่วนที่เหลือเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ไม่ได้มีค่าทัศนาจรใดๆ
คำชี้แจงนี้คงต้องเป็นเรื่องที่ผู้คนต้องชั่ง น้ำหนักกับผลจากการประชุมที่ได้รับ ทั้งต่ออาเซียนและกับประเทศไทย
หลังจากกระทรวงกลาโหมระบุว่า ประเทศมหาอำนาจมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและเสริมขีดความสามารถให้อาเซียนมีความพร้อมมากขึ้น
ทั้งยังประสานงานแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อมองจากข่าวต่างประเทศ มุ่งเน้นไปที่กรณีนายแอชตัน คาร์เตอร์ รมว.กลาโหมสหรัฐ ยืนยันในความสัมพันธ์ของสหรัฐกับฟิลิปปินส์
ส่วนความสัมพันธ์ทางกองทัพระหว่างไทยกับสหรัฐ สะท้อนว่าเป็นไปด้วยดีมาตลอด แม้ในช่วงเวลาที่ฝ่ายไทยเกิดปัญหาทางการเมืองจากการรัฐประหาร การซ้อมรบระดับภูมิภาคที่สหรัฐ ให้ไทยเป็นฐานไม่เคยหยุดชะงัก ไม่ว่าคอบร้า หรือกะรัต
อีกทั้งในการประชุมนี้นายคาร์เตอร์ยังชื่นชมไทยที่ตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา ทั้งการค้ามนุษย์ การทำประมงผิดกฎหมาย ไปจนถึงการแก้ปัญหาการบินพลเรือน
ด้วยคำชมนี้อาจจะช่วยทำให้คำนวณได้ว่า ค่าใช้จ่ายไปร่วมประชุมครั้งนี้สมเหตุสมผลและคุ้มค่าหรือไม่