อาวุธกับเด็ก

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

อาวุธกับเด็ก – คดีอาชญากรรมสะเทือนขวัญที่มือปืนใช้อาวุธปืนร้ายแรงบุกร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าที่จังหวัดลพบุรี ยิงเหยื่ออย่างเลือดเย็น และมีเด็กอายุ 2 ขวบถูกกระสุนเสียชีวิตด้วย กับกิจกรรมวันเด็กที่จัดให้เด็กๆ ชมอาวุธชนิดต่างๆ ของกองทัพ รวมถึงถ่ายรูปกับปืนของเล่น เป็นภาพความขัดแย้งที่ผู้ใหญ่น่าจะต้องพิจารณาให้รอบคอบและรอบด้านกว่าเดิม

แม้ว่าทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด แต่มีจุดเชื่อมโยงอยู่ที่อาวุธ

อาวุธหรือการสู้รบทางทหารมักถูกนำเสนอถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรและมีอำนาจ

การที่เด็กผู้ชายชอบของเล่นอาวุธปืน รถถัง หรือชุดเครื่องแบบทหาร อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติสามัญ แต่หากไม่ผ่านการบอกเล่าให้เด็กรู้ถึงมุมมองอีกด้าน ความนิยมเรื่องอาวุธอาจกลายเป็นเรื่องสนุก เท่ จนเกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึง

ก่อนหน้านี้ เกิดเหตุเด็กนักเรียนชั้นป.4 ที่จังหวัดนครราชสีมา นำปืนพกออโตเมติก ขนาด 9 ม.ม. ของพ่อที่เป็นทหารมาเล่นในโรงเรียน และเคราะห์ร้ายที่ปืนลั่นใส่เพื่อนนักเรียนชายชั้นเดียวกันบาดเจ็บ

กรณีเช่นนี้แม้ไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนว่า การที่เด็กจับอาวุธร้ายแรงโดยไม่รู้ถึงผลกระทบที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นเป็นอันตรายทั้งกับเด็กเองและผู้อื่น

นอกเหนือจากการระมัดระวังของผู้ใหญ่ผู้ปกครองที่ต้องเก็บอาวุธปืนไม่ให้เด็กเข้าถึงได้ การให้ข้อมูลถึงผลกระทบจากการใช้อาวุธเป็นเรื่องสำคัญ

โดยเฉพาะอาวุธที่พรากชีวิตผู้อื่นได้ อาวุธที่ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและพิการได้ สร้างความสูญเสียให้ผู้อื่นและผู้ใช้อาวุธนั้นอย่างไร

สําหรับการแสดงอาวุธของกองทัพในวันเด็กเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานาน ส่วนหนึ่งเห็นว่าควรดำเนินต่อไปเพราะได้รับความนิยมจากเด็ก

อีกส่วนเห็นว่าไม่ควรนำเสนอหรือชักจูงให้เด็กสนุกหรือรู้สึกเท่เมื่อได้ถ่ายรูปกับอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธอันตราย

เงื่อนไขของประเทศไทย ต่างจากประเทศอื่นๆ ที่จัดแสดงอาวุธในวันเด็ก ตรงที่ว่ายังไม่เผยแพร่บทเรียนการใช้อาวุธที่ละเมิดหรือทำลายระบอบประชาธิปไตย

หลังจากเหตุการณ์รัฐประหารหลายครั้งเกิดขึ้นได้เพราะทหารมีอาวุธเหนือรัฐบาลพลเรือน ซึ่งเงื่อนไขนี้ต้องยุติลงให้ได้