FootNote:ท่าที ปฏิเสธ ทั้งไล่ ทั้งเชียร์ เป้าหมายคือสกัดวิ่งไล่ลุง
ไม่ว่าท่าทีอันมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าท่าทีอันมาจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มากด้วยความละเอียดอ่อนและแหลมคมยิ่งในทางการเมือง
เพราะล้วนเป็นท่าทีที่ปฏิเสธไม่ว่าจะเป็นต่อ”เดินเชียร์ลุง” ไม่ว่าจะเป็นต่อ”วิ่งไล่ลุง”
สรุปรวบยอดว่า “ไม่มีประโยชน์”
ความละเอียดอ่อนนี้มิได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายหากเป็น การประเมินต่อกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”เพราะมีความเด่นชัดอยู่แล้วว่า”ลุง”ในที่นี้หมายถึงใคร
หากแต่เป็นความละเอียดอ่อนและย่อมสะเทือนอารมณ์อย่างลึก ซึ้งต่อการออกมาของ”เดินเชียร์ลุง”
เพราะเท่ากับเป็นการปัดปฏิเสธเจตนาดีของป้าๆลุงๆ
มีความจำเป็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจัก ต้องแสดงท่าทีออกมาในเชิงปฏิเสธบทบาทและความหมายของทั้งฝ่ายที่เชียร์และฝ่ายที่ไล่
เพราะถึงอย่างไรฝ่ายที่เชียร์ก็คงไม่หนีไปไหน ยังคงภักดีต่อลุง ภักดีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมั่นคงอยู่แล้ว
ตรงกันข้าม การออกมาปฏิเสธโดยมี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ยืนสนับสนุนด้วยน้ำเสียงเดียวกัน ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นพิเศษ
เพราะ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ มิได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเท่านั้น หากแต่ยังดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรค พลังประชารัฐอยู่ด้วย
ตรงนี้ต่างหากจะเป็นรากฐานอันมั่นคงหาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะดำเนินมาตรการกับวิ่งไล่ลุงในอนาคตอันใกล้
มีความแจ่มชัดค่อนข้างสูงว่าความหวังที่จะจัด”วิ่งไล่ลุง”ครั้งที่ 2 ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ไม่น่าจะดำเนินไปด้วยความราบรื่น
เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นไปอย่างชนิดหืดขึ้นคอ หนักหนาสาหัสยิ่งกว่าวิ่งไล่ลุงครั้งที่ 1 เป็นอย่างสูง
เพราะไม่เพียงแต่กลุ่ม”เดินเชียร์ลุง”จะออกมาสกัดขัดขวางอย่าง คล้อยตามกับบทสรุปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากแต่มาตรการต่างๆจากฝ่ายความมั่นคงก็จะยิ่งเข้มข้น
เข้มข้นตั้งแต่จุดเริ่มต้นกระทั่งไม่ยอมให้มีการขยับขับเคลื่อน
เป้าหมายแท้จริงจึงอยู่ที่ “วิ่งไล่ลุง” ขณะเดียวกัน ก็จะยืมมือ”เดินเชียร์ลุง” มาเป็นอาวุธอันทรงความหมาย