ยุบ-ไม่ยุบอนาคตใหม่

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ยุบ-ไม่ยุบอนาคตใหม่ – เป็นคดีใหญ่ทางการเมืองที่อยู่ในความสนใจของประชาชน นั่นคือผลวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า จะยุบพรรคอนาคตใหม่ หรือไม่ ในวันที่ 21 ม.ค.นี้

คำวินิจฉัยดังกล่าวเกี่ยวกับข้อกล่าวหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่เรียกว่า คดี อิลลูมินาติ จากการใช้โลโก้พรรค และการนำเสนอนโยบายและแนวทางทางการเมืองของพรรค

ข้อกล่าวหาดังกล่าวเรื่อง อิลลูมินาติ เป็นเรื่องใหม่ สำหรับการเมืองไทย แต่กลไกและวิธีการ กล่าวหาให้ยุบพรรคเป็นเรื่องเก่า และเกิดซ้ำๆ ในช่วงความขัดแย้งทางการเมือง 10-15 ปีมานี้

เพียงเปลี่ยนจากพรรคการเมือง ยอดนิยมของคนรากหญ้า มาเป็นพรรคตัวแทนของคนรุ่นใหม่

พรรคอนาคตใหม่แจ้งเกิดในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 หลังจากก่อตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2561 ด้วยจำนวนส.ส.เขต 31 ที่นั่ง คะแนนเสียง 6.3 ล้านเสียง และรวมส.ส.ในสภา 80 ที่นั่ง

ปัจจุบันจำนวนที่นั่งส.ส.ลดลงเหลือ 76 ที่นั่ง จากการขับสมาชิกที่มีแนวทางสวนทางกับพรรค แต่ยังคงเป็นอันดับ 3 ของพรรคการเมืองทั้งหมดในสภาที่มีเกิน 20 พรรค คิดเป็นอัตราส่วนเกือบร้อยละ 18 ของสภา 500 ที่นั่ง ซึ่งนับว่าเป็นตัวแทนประชาชนในจำนวนที่สูง

ความโดดเด่นของพรรคอนาคตใหม่ นอกจากหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคหลายคนเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ คือแนวทางการต่อต้านรัฐประหาร ปรับปรุงโครงสร้างและกลไกทางการเมืองที่แยกทหาร-กองทัพ ออกจากการเมืองอย่างชัดเจน

ด้วยความเชื่อว่าการเมืองที่ดีเท่านั้นที่จะทำให้เศรษฐกิจดีได้

การขับเคลื่อนนโยบายและแนวทางของพรรคอนาคตใหม่ตั้งแต่ก่อนและหลังการเลือกตั้ง มีจุดเด่นที่ดึงประชาชนคนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้มาก

ขณะเดียวกันก็ถูกมองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร จากกลุ่มอนุรักษนิยมเข้มข้นและกลุ่มถือครองอำนาจแบบเก่าจำนวนมากเช่นกัน ทั้งแสดงออกโจ่งแจ้งว่าต้องกำจัดไปให้ได้ในทุกวิถีทาง

ในแง่กระบวนยุติธรรมนั้น การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรม เมื่อมีผลออกมา ทุกฝ่ายต้องเคารพและน้อมรับ

แต่ในทางการเมืองเป็นอีกส่วนหนึ่ง หลายครั้งที่พรรคการเมืองถูกยุบ แต่ประชาชนก็ยังสนับสนุนผ่านการเลือกตั้งครั้งต่อมาอย่างล้นหลาม ถือเป็นการวินิจฉัยโดยประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน