FootNote:ชะตากรรมพรบ.งบประมาณ บทบาท นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
กรณีที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ออกมาเปิดโปง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ว่ามีผู้เสียบบัตรแทนในการลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563
เป็นเรื่องร้ายแรงและมีโอกาสสูงเป็นอย่างสูงที่จะบานปลายกระทบต่อสถานะของรัฐบาล
บางคนอาจมองว่าเป็นความแค้นส่วนตัว
เพราะว่า นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ทำให้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ กลายเป็น ส.ส.สอบตก ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบภาคใต้
นี่จึงเป็นเรื่องระหว่างพรรคการเมืองอันแหลมคมยิ่ง
มิได้เป็นเรื่องแปลกหาก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จะให้ความสนใจต่อบทบาทและการเคลื่อนไหวของ นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ อย่างเป็นพิเศษในฐานะที่เป็นคู่ต่อสู้ทางการเมือง
แต่ความน่าสนใจยังอยู่ที่ว่า ข้อมูลที่นำมาเสนอมีน้ำหนักและมีความหนักแน่นจริงจังมากน้อยเพียงใด
ยิ่งกว่านั้นยังอยู่ที่ว่าสามารถเข้าถึง”ข้อมูล”ได้อย่างไร
ในฐานะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เป็นส.ส.มาอย่างยาวนานต่อ เนื่องมีเว้นระยะบ้างก็เพียงในสมัยเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 เท่านั้น
ความสัมพันธ์ระหว่าง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ จึงยังดำรงคงอยู่อย่างเหนียวแน่น แต่ปัจจัยที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือคนของพรรคการเมืองใดที่ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐสภา
ตรงนี้ต่างหากที่มีความละเอียดและอ่อนไหวอย่างเป็นพิเศษ
จังหวะก้าวของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อาจกระทำในทางส่วนตัวมิได้ดำเนินไปอย่างเป็นมติหรือเป็นบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์
กระนั้น ผลสะเทือนจากเรื่องนี้มหาศาลอย่างยิ่ง
เนื่องจากเคยมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาแล้วเมื่อปี 2557 ในกรณีพรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทที่ต้องโมฆะเพราะมีการกดบัตรแทนกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
รอยยิ้มของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้จากการลงมติรับร่างพรบ.งบประมาณและกำลังผ่านที่ประชุมวุฒิสภา
ก็อาจต้องชะงักและส่งผลสะเทือนต่อสถานะของรัฐบาลในที่สุด