สวย–มีสมอง
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
สวย–มีสมอง : การวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ของบุคคลในที่สาธารณะปัจจุบันต้องระมัด ระวังมากกว่าอดีต
เนื่องจากสังคมโลกพัฒนาสู่ความเท่าเทียม มากขึ้น ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิ มนุษยชนมากขึ้น
การวิจารณ์ที่สุ่มเสี่ยงถึงเรื่องผิว เรื่องเพศ เรื่องเชื้อชาติ ที่มีลักษณะเหยียดหรือเป็นมายาคติ มักไม่เป็นที่ยอมรับ และเกิดกรณีตัวอย่างเป็น บทเรียนมาไม่น้อย
ในที่นี้รวมถึงการพูดถึงรูปร่างหน้าตาของผู้หญิง แม้บางครั้งจะเป็นคำชม เช่น สวย เซ็กซี่ มีเสน่ห์ดึงดูด ไม่เหมาะกับหลายบริบท และหลายวิชาชีพ
โดยเฉพาะวงการการเมืองที่ต้องเป็นต้นแบบของการเคารพความเสมอภาคเท่าเทียมของคนทุกฝ่าย
คําพูดที่สะท้อนความคิดว่าผู้หญิงสวยต้องมีสมองด้วย เป็นคำแนะนำที่ได้ยินบ่อยๆ อาจเพราะหวังดีอยากให้ผู้หญิงใส่ใจกับการใฝ่หาความรู้มากกว่าสนใจรูปร่างหน้าตา
แต่ประโยคดังกล่าวเป็นวาทะที่สุ่มเสี่ยงว่าเป็นการตัดสินบุคคลแบบเหมารวม ในเชิงว่าผู้ที่ มุ่งเน้นความสวยความงามมักไม่มีความสามารถ หรือฉลาดเฉลียว ทั้งที่เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล การจัดแบ่งเวลาหรือภาระหน้าที่ของแต่ละคน
เช่นเดียวกับการพูดว่า คนไม่ค่อยสวยแต่มีสมองนั้นพบเห็นได้มาก สุ่มเสี่ยงเช่นกันว่า ผู้พูดกำลังจะตัดสินความสวยของบุคคลอื่นด้วยทัศนคติของตนเอง แม้ผู้พูดไม่มีเจตนาต่อว่าใครคนใด ทั้งสิ้น
จะเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์กว่า หากผู้นำทางการเมืองพูดกระตุ้นให้ประชาชนขยันเรียนรู้ ฝึกทักษะการทำงาน และเพิ่มศักยภาพ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเองและสังคมโดยรวม
ประเด็นต่อเนื่องจากการพูดถึงความสวยในแวดวงการเมืองยังมีปฏิกิริยาของนักการเมืองที่น่าจะต้องทบทวนตนเองด้วย
การพูดเหยียดบุคคลอื่นเรื่องรูปร่างหน้าตา ความสวย–ไม่สวย ความอ้วน เป็นเรื่องที่ ไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่งสำหรับสมาชิกสภาผู้แทน
โดยเฉพาะผู้แทนหญิงที่ควรเข้าใจและตระหนักถึงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสตรี ระมัดระวังการแสดงทัศนคติที่มุ่งแต่ความสะใจ เอาชนะคะคาน หรือดูถูกดูแคลนผู้อื่น
หากไม่สนใจการส่งเสริมสิทธิสตรี ก็ไม่ควรบั่นทอน