ผ่านท่าที 1 คสช. 1 รัฐบาล ต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ผลงาน 3 ปีจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 แล้วรู้สึก “หวั่นไหว”

หวั่นไหวว่า หากประเทศเดินหน้าเข้าสู่บรรยากาศแห่งการเลือกตั้งในปลายปี 2561 จะเป็นอย่างไร

ในเมื่อ คสช.ก็ยังเปี่ยมด้วย “อำนาจ”

เพราะว่ายิ่งใกล้กับ “การเลือกตั้ง” มากเท่าใด การวิจารณ์ในทางการเมืองจะยิ่งเข้มข้น

เพราะอยู่ในโหมดของ “การหาเสียง”

เหมือนกับว่า ความขัดแย้งและการต่อสู้ระหว่างแต่ละพรรค การเมืองจะดำเนินไปด้วยความร้อนแรง

แต่ก็ต้องยอมรับในลักษณะ”ร่วม”

รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จะเป็น “เป้านิ่ง”ของทุกพรรคการเมืองอย่างแน่นอน

เท่ากับ”คสช.”จะกลายเป็น”ตำบลกระสุนตก”

คสช.อาจประเมินว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์”รัฐประหาร”น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นด้านหลัก

เป็นเช่นนั้นแน่นอน

เพราะไม่ว่ารัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่ารัฐประ หารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

กลุ่ม”เพื่อไทย” คือ “เป้าหมาย”

ไม่ว่าจะใช้ชื่อ พรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะใช้ชื่อ พรรคพลังประชาชน กระทั่งที่สุดถึงชื่อ พรรคเพื่อไทย

แต่อย่าคิดว่า “พรรคการเมือง”อื่นไม่เอาด้วย

ขนาดวิพากษ์วิจารณ์เบาะๆในวาระ 3 ปีของรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ยัง “ลมออกหู”

การวิพากษ์วิจารณ์ในบรรยากาศแห่ง”การหาเสียง”เพื่อสร้างคะแนนและความนิยมต้องหนักกว่านี้

แล้ว “คสช.” จะทนได้หรือ

ในเมื่อ “อำนาจ” ยังอยู่ในมือของ “คสช.”อย่างเต็มเปี่ยม ทั้งยังเป็นอำนาจจาก “รัฐประหาร”

บรรยากาศในแบบ”ประชามติ”ก็อาจจะย้อนกลับมา

เป็นการเลือกตั้งในแบบที่มี”ทหาร”คุมเข้มทุก”หน่วยเลือกตั้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน