คนหรือสัตว์กันแน่
คอลัมน์ เพื่อนตัวเล็ก
คนหรือสัตว์กันแน่ – เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังไม่มีการยืนยันชี้ชัดถึงต้นตอของเชื้อ “ค้างคาว” เลยตกเป็นจำเลยสังคม ส่วนหนึ่งเพราะค้างคาวมีประวัติเป็นพาหะนำโรคร้ายหลายชนิด
เริ่มจาก “ไวรัสเฮนดรา” เดิมทีพบการติดเชื้อจากม้า แต่ในปี 2543 นักวิจัยพบการติดเชื้อไวรัสเฮนดราจากค้างคาวแม่ไก่ หรือค้างคาวผลไม้ “โรคกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง” (SARS-CoV)
มีการพบเชื้อไวรัสซาร์สในสัตว์อย่างอีเห็นเครือ และสุนัขแร็กคูน สันนิษฐานว่าเกิดจากการจำหน่ายเนื้อสัตว์ป่าในจีน ซึ่งทำให้เกิดการปนเปื้อน และแพร่เชื้อสู่มนุษย์ รวมถึงต่อมาพบการติดเชื้อในค้างคาวมงกุฎ ซ้ำร้ายยังพบในลิงชิมแปนซี ไก่ สุนัข แมว หมู หนู และนกด้วย
อีกโรคคือ “เชื้อไวรัสนิปาห์” เป็นโรคติดต่อระหว่างสัตว์สู่คน เกิดจากการสัมผัสมูลสัตว์ และสารคัดหลั่งของพาหะนำโรค จากค้างคาวผลไม้ ติดต่อไปยังหมู ม้า แมว แพะ แกะ และแพร่เชื้อ สู่คน ซึ่งสามารถระบาดจากคนสู่คนได้
“โรคพิษสุนัขบ้า” ในจีนัสไลซ่าไวรัส มีอยู่ 2 ชนิดที่มาจากค้างคาว คือ “ลากอสแบตไวรัส” แยกเชื้อได้จากค้างคาวในไนจีเรีย และ “ออสเตรเลียนแบตไลซ่าไวรัส” แยกได้จากค้างคาวในออสเตรเลีย
“โรคติดเชื้อไวรัส อีโบลา” ค้นพบได้ในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังหลายชนิด รวมถึงค้างคาวผลไม้ที่พบการติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ
ที่สำคัญคือ มีหลักฐานบ่งชี้บ่งว่า “โรคเมอร์ส” ที่เกิดจากการติดเชื้อในกลุ่มโคโรนาไวรัส มีรหัสพันธุกรรมกลุ่มเดียวกับไวรัสที่พบในค้างคาวกินแมลงในแอฟริกาใต้
แม้ค้างคาวจะถูกตราหน้าว่าเป็นสัตว์พาหะโรคเยอะ แต่หากมนุษย์รู้จัก “พอ” ไม่กินสัตว์ป่าสัตว์แปลก เราคงไม่ต้องมากังวล ปิดเมือง-ปิดประเทศเหมือนที่เห็นในปัจจุบัน