ยังไม่ทันที่ร่างกฎหมาย “ควบคุมสื่อ” จะชวด ฉลู ขาล เถาะ สปท.ก็ขยับอีกก้าว
นัดนี้เปิดตัว “กปช.”
นั่นก็คือ การปรับแต่ง “คณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ”
ผ่านร่างพรบ.ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์
ยังเป็น”กองหน้าร่าเริง”เจ้าเดิม 1 พล.อ.อ.คณิต สุวรรณเนตร และ 1 พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์
ในนามคณะกรรมาธิการด้านสื่อสารมวลชน สปท.
เห็นชื่อ 1 พล.อ.อ. กับ 1 พล.ต.ต. 2 คนนี้คนในแวดวง “สื่อ”ก็ต้องเอามือกุมอก
ไม่ว่าจะเป็น “สื่อใหม่” ไม่ว่าจะเป็น “สื่อเก่า”
สรุปตามสำนวนไทยโบราณก็ต้องบอกว่า “ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นฟัน” ครบถ้วน
ถามว่า “สปท.” มี “ราก”จากไหน
คำตอบ 1 สปท. ก็คือความต่อเนื่องจาก สปช. อันนำไปสู่คำตอบ 1 ซึ่งสำคัญ
คือ อยู่ในฐานะ 1 ในแม่น้ำ 5 สาย
เป็นผลิตผลจากกระบวนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ดำเนินตามหลักการของ “เรือแป๊ะ”
เพียงแต่ในยุคสปช.จุดเริ่มมาจากสปช. และพอมาถึงยุคสปท.ก็มีจุดเริ่มจากสปท.
“ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”
ไม่ว่าจะเป็นสปท. ไม่ว่าจะเป็นกรธ. ไม่ว่าจะเป็นสนช. ไม่ว่าจะเป็นครม. ไม่ว่าจะเป็นคสช.
จึงล้วน “ร้องเพลง” เดียวกัน
เพียงแต่ว่าอันไหนคนไหน “ชง” คนไหน “ขับเคลื่อน” คนไหนรวบรัด “สรุป”
และอยู่ภายใต้”ร่มธง” เดียวกัน
นั่นก็คือ ร่มธงอันเป็นสารตั้งต้นแห่งการทำรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เพื่ออุดช่องว่าง รอยโหว่จากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
อำนาจต้อง”เบ็ดเสร็จ” เพื่อมิให้ “เสียของ”