คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่คนร้ายวางระเบิดห้างบิ๊กซีใน จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ทำให้โครงการพาคนกลับบ้าน ตกเป็นประเด็นถกเถียงว่าควรจะมีต่อไปหรือไม่ เนื่องจากมีผู้ต้องสงสัยในคดีนี้เคยเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

ในการประชุมครม.ส่วนหน้าสัปดาห์นี้จึงมีวาระที่จะหารือถึงการปฏิบัติงานให้ดูแลบุคคลที่จะร่วมโครงการให้เกิดความชัดเจน

เบื้องต้นผู้มีอำนาจตัดสินใจส่วนใหญ่เห็นว่าโครงการนี้ควรมีต่อไป แต่ต้องกำกับดูแลให้มากขึ้น พิจารณาคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการละเอียดขึ้น และติดตามพฤติกรรมอย่างเข้มงวดขึ้นด้วย

หลังจากโครงการพาคนกลับบ้านเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2555 และเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจและสันติสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้

ทุกครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงและความสูญเสียในพื้นที่ความขัดแย้งของจังหวัดชายแดนภาคใต้ มักก่อให้เกิดคำถามหรือความไม่เห็นด้วยในเรื่องการเจรจาพูดคุย

โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องการแต่ความเด็ดขาดมักแสดงความคิดเห็นที่สนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงในการปราบปราม ซึ่งไม่มีหลักประกันใดว่าจะสำเร็จ มีแต่ความชัดเจนว่าจะทำให้ความขัดแย้งร้าวลึกและขยายวงออกไปจากเดิม

ข้อคิดสำคัญจากหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คือ สังคมต้องแยกให้ออกจากกันระหว่างการพูดคุยกับเหตุความรุนแรงในพื้นที่

การรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นเรื่องหนึ่งที่มีหลายหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงอยู่ ส่วนการพูดคุยก็ควรเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

กรณีที่บุคคลในโครงการพาคนกลับบ้านหวนก่อความรุนแรงในพื้นที่นั้นอาจเป็นเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง แต่ก็ไม่ควรเป็นเงื่อนไขที่ไปกระทบต่อผู้ร่วมโครงการอื่นๆ ทั้งที่ผ่านมาและในอนาคต

เพราะการใช้แนวทางสันติภาพนั้นเป็นแนวทางที่มีตัวอย่างให้เห็นจากสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลก ว่าเป็นทางออกที่ยั่งยืนและลดความสูญเสียลงได้ ด้วยการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อกัน

โครงการพาคนกลับบ้านเป็นส่วนสำคัญที่จะให้โอกาสนั้น และควรพัฒนาจากหลักการนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน