FootNote:บทบาทประยุทธ์พลังประชารัฐ ณ เบื้องหน้าไวรัสโคโรนา “ตู่ฮั่น”

หากดูจากการเปิดญัตติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ไม่ยึดมั่นและศรัทธาต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัติริย์ ทรงเป็นประมุข

เหมือนกับเป็นการย้อนศรต่อสำนวนและข้อกล่าวหาอันศาลรัฐธรรมนูญรับและวินิจฉัยต่อพรรคอนาคตใหม่

นั่นก็คือ เป็นผู้ทำลายระบอบประชาธิปไตย

แต่จุดต่างอย่างสำคัญก็คือ พรรคอนาคตใหม่ประกาศเดินหนทางรัฐสภาเพื่อผลักดันประชาธิปไตย”ตามรัฐธรรมนูญ”อย่างมั่นแน่ว

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา เป็นผู้ล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ

รูปธรรมคือการยึดอำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งของญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ ครั้งนี้ คือการดำเนินไปในแบบ

“ยืมหอก สนองคืน

เป็นการยืมหอกสนองคืนไม่เพียงแต่ต่อบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในลักษณะสมคบคิด หากแต่ยังกระหน่ำเข้าไปยังบริวารที่เคลื่อนไหวอย่างเอาการเอางาน

นั่นก็คือ การแปรหลักการ”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”ของมวลมหาประชาชน มาเป็นการเคลื่อนไหวเล่นงาน”ลัทธิชังชาติ”โดยมีพรรคอนาคตใหม่เป็นเป้าหมายสำคัญ

ยิ่งฝ่ายค้านตั้งเป้าเล่นงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างหนักหน่วง ยิ่งทำให้องค์กรข้างเคียงต้องรับผลสะเทือน

สะเทือนไปพร้อมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

มาถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เด่นชัดอย่างยิ่งว่าสถานะของคสช.สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แตกต่างเป็นอย่างมาก

แตกต่างกับเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

ยิ่งผ่านกระบวนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พร้อมกับการใช้อภินิหารในทางกฎหมาย ตัวตนของคสช. ตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งล่อนจ้อน

ล่อนจ้อนเมื่อประสบกับวิกฤตภัยแล้ว ล่อนจ้อนเมื่อประกับวิกฤตพีเอ็ม 2.5 ล่อนจ้อนเมื่ประสบกับไวรัส โคโรนา จากมหานครอู่ฮั่น

กลายเป็นไวรัส”ตู่ฮั่น”ไปโดยอัตโนมัติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน