คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ในที่สุดความไม่พอใจของผู้ประกอบอาชีพพยาบาล ที่ยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการบรรจุพยาบาลอัตราจ้างจำนวนกว่า 10,000 คน เข้ารับราชการก็คลี่คลายลงในระดับหนึ่ง
เมื่อนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี รับปากว่าจะมีการเกลี่ยตำแหน่งอัตราข้าราชการในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทยอยบรรจุพยาบาลเข้ารับราชการตามข้อเรียกร้องภายในเวลา 3-4 ปี
แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ที่ทำให้ปฏิกิริยาซึ่งปะทุขึ้นมาระงับลงไปได้ชั่วคราว
มิได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ที่จะแก้ไขปัญหาในภาพรวมทั้งของอาชีพพยาบาลและข้าราชการในส่วนอื่นๆ
ให้สอดคล้องกับความเป็นจริงของรัฐและสังคม
เพราะฉะนั้น ที่ควรดำเนินการควบคู่กันไปกับการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการบรรจุพยาบาลก็คือ
รัฐบาลควรสำรวจอัตรากำลังของข้าราชการทั้งระบบ ว่าแต่ละหน่วยงานมีอัตรากำลังพล ที่สอดคล้องกับภารกิจ งบประมาณ และความเปลี่ยนแปลงในอนาคตของสังคมไทยอย่างไร
จากนั้นจึงดำเนินการปรับปรุงแก้ไขทั้งโครงสร้าง และการเกลี่ยอัตรากำลังให้ “สมจริง”
ทั้งหมดนี้มิใช่เรื่องยากหรือใช้เวลาอย่างใด เพราะแต่ละกระทรวง ทบวง กรม รวมไปถึงสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ย่อมมีข้อมูลอัตรากำลังข้าราชการในมืออยู่แล้ว
ที่สำคัญว่าพร้อมหรือกล้าที่จะนำข้อเท็จจริงมาพูดกันอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่
เพราะในขณะที่หน่วยราชการหลายแห่ง ประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากร อันเนื่องมาจากการลดและจำกัดข้าราชการในหลายปีที่ผ่านมา
ก็ยังมีหน่วยราชการอีกหลายแห่งที่มีจำนวนกำลังพลเกินกว่าภารกิจและความจำเป็น จนกระทั่ง ต้องมีการแต่งตั้งอัตรา “ประจำ” จำนวนมาก เอาไว้รองรับ หรือบางหน่วยงานเกิดภาวะ “หัวโตตัวลีบ”
ถ้าไม่มีการมองภาพรวมทั้งระบบ เอาภารกิจเป็นตัวตั้ง แล้วปรับลดส่วนที่เกิน เพื่อจะนำอัตราและงบประมาณไปเสริมสร้างในส่วนที่ขาด
อีกไม่นานปัญหาทำนองเดียวกันกับวิชาชีพพยาบาลก็จะเกิดขึ้นกับหน่วยงานหรือสาขาวิชาชีพ อื่นที่ขาดแคลน
คำถามคือรัฐบาลเห็นหรือกล้าจัดการปัญหานี้หรือไม่