ท.ทหารโป๊ะแตก

คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ท.ทหารโป๊ะแตก – รัฐบาลจะจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้ประสบภัย เหตุทหารคลั่งกราดยิงที่โคราช เสียชีวิต 1 ล้านบาท เจ็บสาหัส 2 แสน เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนกรณีระเบิดราชประสงค์

ก็เข้าใจกัน ถ้าใช้ระเบียบสาธารณภัย รัฐบาลจ่ายได้แค่นั้น แต่นี่มันเหมือนก่อการร้ายราชประสงค์หรือ ผู้ก่อเหตุเป็นทหาร ซึ่งไปเอาอาวุธกระสุนร้ายแรงออกมาจากคลังของกองทัพ อย่างที่ประชาชนไม่คาดคิดว่า หน่วยงานที่มีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ใช้เงินภาษีซื้อยุทโธปกรณ์คับคั่ง เอารถถังออกมายึดอำนาจได้ง่ายดาย จะหละหลวมไม่สามารถป้องกันการก่อเหตุได้ถึงเพียงนั้น

นี่ยังไม่นับว่า สาเหตุของความคลั่งมาจากความไม่เป็นธรรมในกองทัพ โดยอาจรวมทั้งวัฒนธรรมความรุนแรง บังคับลงโทษใต้คำสั่ง จนเก็บกด ทำให้สมองผิดปกติ แต่ รมช.กลาโหมกลับโบ้ยว่า ท.ทหารติดเกม

ถามว่าญาติผู้เสียชีวิตผู้บาดเจ็บ จะฟ้องร้องได้หรือไม่ ก็ท่านตั้งการ์ดไว้แล้ว “วินาทีที่ลั่นไก เขาคืออาชญากร ไม่ใช่ทหารอีกต่อไป” คำพูดนี้ราวกับปรึกษานายทหารพระธรรมนูญมาเป็นอย่างดี ตัดความรับผิดทางแพ่ง แล้วก็บรรยายว่า การปล้นคลังอาวุธเป็นเหตุสุดวิสัย กองทัพเป็นผู้เสียหายเช่นกัน

ย้ำอีกครั้งนี่คือความรู้สึกแบบไทยๆ แบบชาวบ้านๆ ทั่วไป ไม่ใช่พวกชังชาติ กองทัพที่ได้รับงบเป็นแสนล้าน เงินนอกงบประมาณ 1.9 หมื่นล้าน ควรหาทางช่วยเยียวยา ถ้าอ้างว่าติดกฎระเบียบทำอะไรไม่ได้ อย่างน้อยก็ตั้งกองทุน ระดมเงินบริจาคโดยนายทหารระดับสูง ยังบรรเทาความรู้สึกได้

ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย ปฏิเสธความรับผิดชอบ ไม่ยอมรับว่าหละหลวม ต้องปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่ แล้วเบี่ยงไปประกาศว่า จะปราบคอร์รัปชั่น ความไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรมในกองทัพ จัดระเบียบเงินนอกงบประมาณ ฯลฯ เรียกเสียงเชียร์จากฝั่งผู้สนับสนุน ที่ซาบซึ้งน้ำตากลบความรับผิดชอบ

ทำเอา ป.ป.ช.หน้าแหก เพราะเพิ่งมอบรางวัลกองทัพบก เป็นหน่วยงานภาครัฐที่โปร่งใสที่สุด

แต่วันถัดมาก็โป๊ะแตก เพราะที่ประกาศขึงขังว่าจะไล่ทหารเกษียณออกจากบ้านหลวงให้หมดภายในสิ้นเดือนกุมภาฯ ตามมาด้วยข้อยกเว้น ทหารเกษียณแล้วที่ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ เช่น นายกฯ รองนายกฯ ครม. ส.ว.

ลำพัง ส.ว.ได้รับเงินเดือนเงินประจำตำแหน่ง 113,560 บาท นอกจากบำนาญทหาร ยังได้อยู่บ้านหลวงน้ำฟรีไฟฟรี เผลอๆ มี “ทหารบริการ” ที่ได้เป็น ส.ว.ตู่ตั้งมาโหวตตู่ สังคมก็วิพากษ์อยู่แล้วว่าพวกเดียวกัน

แปลว่าโดนไล่เฉพาะคนไม่มีพวก? หรือทหารประทวนแก่ๆ ไม่มีที่ไป เพราะที่ดินจัดสรรที่กู้เงินสวัสดิการทหารบกซื้อไว้ ก็อาจโดนโกง

เพราะเรื่อง “เงินทอน” กู้สวัสดิการซื้อบ้านที่ดินจัดสรร ที่สื่อแฉว่าไม่ชอบมาพากลทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่โคราชเท่านั้น ผบ.ทบ.บอกว่าจะสอบสวน แต่เจ้ากรมสวัสดิการก็ยืนยัน กระบวนการโปร่งใส

แหงละครับ กองทัพไม่เกี่ยว เป็นเรื่องระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย แต่ถามหน่อย บ้านที่ดินราคา 7-8 แสน ให้กู้ล้านห้าได้ไง แล้วทหารกู้ซื้อโครงการจัดสรรทั่วไปไม่ได้หรือ ทำไมต้องเป็นโครงการเฉพาะ ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นเครือญาติผู้บังคับบัญชามาประกอบกิจการ

ระบบทหารบังคับบัญชาแนวดิ่ง เชื่อฟังคำสั่งโดยไม่ตั้งคำถาม มีธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อไหร่ก็พัง ยังไม่นับวัฒนธรรม “ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน” ซึ่งมีไว้ปกป้องกัน

ดังนั้น ที่ท่านจะเปิดคอลเซ็นเตอร์ โดยให้แจ้งชื่อนามสกุล ยศ สังกัด รับประกันปิดเป็นความลับ ประชาชนฟังจึงไม่เชื่อว่าจะมีใครกล้าร้องเรียน

เรื่องอย่างนี้ต้องใช้องค์กรภายนอก เช่นรัฐสภา หรือองค์กรอิสระ ต่างประเทศมีผู้ตรวจการทหารที่บอกว่าจะเอาสนามม้า สนามมวย ธุรกิจในค่ายทหาร ไปเซ็นสัญญากับคลัง ฟังแล้วน่าจะดี ถึงแม้ปฏิเสธว่าไม่ได้ทำตามข้อเรียกร้องของพรรคอนาคตใหม่ ท่านคิดได้เอง แต่ต้องดูอีกทีว่าการประมูลจะเปิดกว้างโปร่งใสเพียงไร แล้วการผูกขาดคลื่นวิทยุทีวี การประมูลเวลา จะจัดระเบียบด้วยหรือไม่

เชื่อเถอะว่า ผลประโยชน์ในค่ายทหาร ไม่จบง่าย เมื่อโป๊ะแตกแล้วจะมีคนขุดคุ้ยมาตีแผ่ ในยุคที่ภาพลักษณ์กำลังแย่ ทำรัฐประหาร ค้ำรัฐบาลไม่ชอบธรรม ได้งบซื้ออาวุธมหาศาล แห่ไปนั่ง ส.ว.แต่งตั้ง แต่พอเกิดปัญหาจากประสิทธิภาพหละหลวม กลับปฏิเสธความรับผิดชอบ

กองทัพจะต้องยอมรับการตรวจสอบจากภายนอก ไม่ใช่ตั้งป้อมเป็นอำนาจศักดิ์สิทธิ์ ผู้มีพระคุณ อยู่เหนือประชาชน ทั้งที่ใช้เงินภาษีประชาชน แต่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้

ไปทวงบุญคุณกับพวกเป่านกหวีดสมคบคิดรัฐประหารโน่น ไม่ใช่ประชาชนทั่วไป

กองทัพจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้มีแต่กำลังรบที่เข้มแข็ง ฝ่ายยุทธบริการที่กะทัดรัด ไม่ใช่มาทำอะไรเต็มไปหมดที่ไม่ใช่หน้าที่ กอ.รมน. กิจการพลเรือน พัฒนา ฯลฯ ซึ่งหน่วยงานอื่นเขาทำอยู่แล้ว แล้วก็อาศัยโครงสร้างนี้ ยึดครองทรัพยากรจำนวนมาก มีนายพลล้นหลาม มีกำลังพลส่วนเกินเต็มไปหมด จนฉุดประสิทธิภาพโดยรวม

ถ้าไม่ปฏิรูปกองทัพ ปัญหาก็จะปะทุขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนก็รับเคราะห์ไม่ว่าทางตรงทางอ้อม