ไม่ว่า “สวนดุสิตโพล” ไม่ว่า “นิด้าโพล” ระบุตรงกันต่อผลงานความ สำเร็จ 3 ปีของ “คสช.”

นั่นก็คือ ความสงบ

ไม่มีการชุมนุม “ประท้วง” เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

หากมี “คสช.” ก็ “สยบ”ได้โดยเร็ว

กระนั้น ภายในความชื่นชมยินดีที่ “คสช.”สามารถสยบกลุ่มที่เคยเคลื่อนไหวได้อย่างราบคาบ

ไม่ว่า “พันธมิตร” ไม่ว่า”นปช.”ไม่ว่า”กปปส.”

ก็มีผลสำรวจ 1 ซึ่งรายงานตรงกัน นั่นก็คือ ความห่วงใยต่อเหตุการณ์และความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ไม่ว่า”สวนดุสิตโพล” ไม่ว่า”นิด้าโพล”

ความจริง สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ในความรับผิดชอบของ “ทหาร” อย่างเกือบจะเบ็ดเสร็จ

นับแต่รัฐประหารเดือนกันยายน 2549

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งเป็น”มุสลิม”ก็เข้าบริหารจัดการด้วยตนเอง

ยิ่งรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ยิ่งเพิ่มความเข้ม

ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ธีรชัย นาควานิช

ยิ่ง พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ยิ่งแข็งขัน

เพราะไม่เพียงแต่ “กองทัพ” จะอยู่ในฐานะเป็น”ธงนำ”หากรัฐบาลยังแต่งตั้ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ไปกำกับอย่างใกล้ชิด

แต่ก็ยังมี “ระเบิด” แต่ก็ยังมีการซุ่ม”โจมตี”

หากนับจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็เหมือนกับเป็น 3 ปี

แต่หากนับจากเมื่อเดือนกันยายน 2549 ก็เป็น 10 กว่าปี

เป็น 10 กว่าปีที่ยังหา “บทสรุป” ที่สร้างความมั่นใจได้อย่างเต็มเปี่ยมต่อสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

ตรงกันข้าม ไฟ”ใต้”กลับไหม้ลาม

ลามขึ้นมายังเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ลามขึ้นมายังหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

และทำท่าว่าอาจจะรุกมาถึง “กทม.”

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหา”ความมั่นคง”โดยตรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน