รัฐบาลจะรับมืออย่างไร
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
รัฐบาลจะรับมืออย่างไร – สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ลงเหลือ 1.5-2.5% ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 2.8%
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่าปัจจุบันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ต้องทบทวน และประมาณการด้านเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง
เนื่องจากส่งผลกระทบมากต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ทำให้ปัจจัยการขยายตัวเศรษฐกิจไม่นิ่ง ส่วนเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แนวโน้มก็คงจะไปในทางถดถอย
นอกจากนี้ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สภาผู้แทนราษฎรนำกลับมาลงมติใหม่ ก็ยิ่งทำให้การเบิกจ่ายล่าช้าออกไปด้วย
รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่ากว่าจะจบสิ้นกระบวนการทางกฎหมาย และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อบังคับใช้คาดว่าจะอยู่ในราวปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นเดือนมีนาคม
ทำให้เม็ดเงินงบประมาณที่จะนำมาใช้ลงทุนเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีระยะเวลาจำกัดคาดว่าจะดำเนินการได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามที่รัฐบาลมุ่งหวังว่าจะช่วยให้เศรษฐกิจมหภาคของประเทศดีขึ้น
แทนที่จะเป็นตัวเร่ง แต่กลับกลายเป็นตัวฉุดอย่างน่าเสียดาย
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศมีแนวโน้มถอยถดลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภาคการผลิต โรงงานอุตสาห กรรมต่างๆ ทยอยปิดตัวและเลิกจ้างงานระลอกแล้วระลอกเล่า
ด้านการท่องเที่ยว ที่เป็นแหล่งทำรายได้อย่างมหาศาลลดลงวูบ เห็นได้ชัดเจนในช่วงที่ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาด นักเที่ยวจากเอเชียและยุโรปหายไปมหาศาล
ล่าสุด โรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศปิดโรงงาน เลิกผลิต เลิกขาย และเลิกทำตลาดในประเทศไทย ส่งผลให้พนักกว่า 1,500 คนถูกเลิกจ้าง ยังไม่นับอีกหลายบริษัทที่ย้ายฐานการผลิตออกไปแล้ว
จนถึงขณะนี้ ทุกฝ่ายต่างเฝ้ารอดูว่ารัฐบาลจะตื่นตัวรับมืออย่างไร