เส้นทางอนาคตใหม่
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
เส้นทางอนาคตใหม่ – อนาคตของพรรคอนาคตใหม่กลับมาเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวางของสังคมอีกครั้ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรค วันที่ 21 ก.พ.นี้ กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ปล่อยเงินกู้ให้พรรคตนเอง 191.2 ล้านบาทเพื่อใช้ทำกิจกรรมรณรงค์ช่วงเลือกตั้ง
หลังจากวันที่ 21 ม.ค. พรรคอนาคตใหม่รอดพ้นคดียุบพรรคจากข้อหาอิลลูมินาติ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่มีลักษณะเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ช่วงเวลาทิ้งห่าง 1 เดือนนี้ มีประเด็นถกเถียงถึงข้อกล่าวหาทั้งเก่าและใหม่ต่อพรรคอนาคตใหม่ การทำหน้าที่ของกกต. ไปจนถึงประเด็นอำนาจในการยุบพรรคการเมือง และการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค
บรรยากาศนี้เป็นทั้งความคึกคักและแรงกดดันทางการเมืองที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
สิ่งที่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้นหลังการอ่านคำวินิจฉัยคดีพรรคอนาคตใหม่ไม่ว่าจะออกมาแนวทางใด คือการแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน และการเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
เนื่องจากพรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคหนึ่งที่มีกลุ่มประชาชนสนับสนุนและเลือกผู้แทนเข้าสู่สภาด้วยจำนวนที่มากเป็นอันดับสามของพรรคการเมืองทั้งหมด
การเคลื่อนไหวผลักดันประเด็นสำคัญของพรรค เช่น การต่อต้านรัฐประหาร การปฏิรูปกองทัพ การตรวจสอบธุรกิจกองทัพ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่จะมีต่อไป ล้วนได้รับความสนใจจากประชาชนกลุ่มต่างๆ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่เป็นฐานเสียงของพรรค
เป็นความเชื่อมโยงระหว่างพรรค การเมืองและประชาชนที่มีความชัดเจนมากสำหรับพรรคอนาคตใหม่
คดียุบพรรคการเมืองเป็นกระบวนพิจารณาและวินิจฉัยข้อกฎหมายของศาล ถือเป็นข้อยุติที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ
ส่วนกิจกรรมทางการเมืองและการสนับสนุนพรรคการเมือง นโยบายทางการเมือง เป็นเรื่องของประชาชน จะยุติหรือไม่เป็นการตัดสินใจของประชาชน
แม้สองเรื่องนี้ไม่ได้อยู่บนเส้นทางเดียวกัน แต่มีจุดตัดแยกระหว่างกันและมีผลกระทบต่อกัน ดังที่มีคดีพรรคการเมืองอื่นในอดีตถูกยุบเป็นกรณีศึกษามาแล้ว
พรรคอนาคตใหม่กำลังเดินทางมาถึงจุดตัดแยกนั้น และคงจะมีเส้นทางของตนเองต่อไป