FootNote : ลักษณะตั้งรับของรัฐบาล ลักษณะตั้งรับของประยุทธ์
ไม่ว่ามองในมุมการเมือง ไม่ว่ามองในมุมการทหาร ไม่ว่ามองในมุมการตลาด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้วนอยู่ในสถานะอัน “ตั้งรับ”
ภายหลังคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ผลที่ตามมาก็คือการออกโรงของนักเรียน นิสิต นักศึกษาในขอบเขตทั่วประเทศ พร้อมกับไฟสมาร์ทโฟน เสียงตะโกน “ออกไป ออกไป”กระหึ่ม
ไม่ว่าจะเป็นที่ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก
ขณะเดียวกัน เมื่อเสร็จสิ้นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจอย่างทุลักทุเล เสียงเรียกร้องให้มีการปรับครม.ก็รุกเร้าอย่างเร่งร้อน
เป็นความเร่งร้อนจากภายในของพรรคพลังประชารัฐ
ทางออกเฉพาะหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือความพยายามปิดปากเงียบในประเด็นทางการเมือง
ไม่ว่าการเมืองเรื่องแฟลชม็อบ ไม่ว่าการเมืองเรื่องปรับครม.
กลายเป็นว่าหันไปด้านซ้ายก็ติด ขยับไปด้านขวาก็ล็อก จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็ลำบาก เพราะเรื่องของแฟลชม็อบก็เป็นปัญหาทางการเมือง
ยิ่งเรื่องปรับครม.สายตาทุกสายตาอันมาจากพรรคพลังประชารัฐ ก็จ้องมองอยู่
จ้องมองทั้งคนที่อาจถูกปรับออก ทั้งคนที่อาจปรับเข้า
จำเป็นต้องหันไปพูดเรื่องไวรัสโควิด-19 มากเป็นพิเศษ จำเป็นต้องหยิบเอาเรื่องภัยแล้งมาร่ายยาวเหยียด เพื่อหลีกเลี่ยงจากปมประเด็นในทางการเมือง
การเมือง การทหาร การตลาด จึงล้วนถูก “รุก”อย่างต่อเนื่อง
สภาพการณ์ทางการเมืองของรัฐบาลนับแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป จึงเป็นสภาพอย่างที่โบราณสรุปว่า ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก ยากจะหลุดไปจากวังวนนี้ได้
ถามว่าเป็นเพราะพรรคอนาคตใหม่หรือ ถามว่าเป็นเพราะพรรคเพื่อไทยหรือ
ไม่ใช่หรอก หากแต่เป็นจาก “ภายใน”รัฐบาลเอง
เพราะพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ก็รักษาเก้าอี้ของตนเหนียวแน่น มีเพียงพรรคพลังประชารัฐที่จะขยับ
นี่คือปัญหาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกรุกอย่างต่อเนื่อง