ความเงียบอันมาจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังจะกลายเป็นประเด็น
แม้จะดำรงอยู่อย่างชอบธรรม
นั่นก็คือ จากโรคาพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นต่อสังขารต่อนายทหารผู้มีอายุ 72 ปี
มีเหตุผลอย่างยิ่งที่จะต้องระแวดระวัง
กระนั้น อย่าลืมเป็นอันขาดว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งเป็นอะไร
เป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ไม่ว่าจะเป็นระเบิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน ไม่ว่าจะเป็นระเบิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งระเบิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม
“สังคม” ย่อมต้องการได้ยิน”เสียง”
กัมปนาทแห่งระเบิดเมื่อวันที่ 5 เมษายน อาจไม่แจ่มชัดเพราะว่าดังมาจากถนนราชดำเนินกลาง หน้ากองสลากเก่า
เช่นเดียวกับระเบิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม
เพราะเป็นระเบิดที่ดังมาจากข้างโรงละครแห่งชาติ ติดกับท้องสนามหลวง
แต่ระเบิดในวันที่ 22 พฤษภาคม ชัดอย่างยิ่ง
เป็นความชัดไม่เพียงเพราะเป็นวันอันตรงกับวาระแห่งรัฐประหารเมื่อปี 2557
หากเป้าหมายคือ “ห้องวงษ์สุวรรณ”
ยิ่งกว่านั้น “ห้องวงษ์สุวรรณ” ยังเป็นห้องๆ 1 ของโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า อันเป็นโรงพยาบาลทหาร
ตีเข้าที่”หัวใจ”ของ”ความมั่นคง”
ไม่ว่าจะมองในทาง “การทหาร” ไม่ว่าจะมองในทาง”การเมือง”เป้าหมายรวมศูนย์ไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
“ความเงียบ” อาจมี “ความจำเป็น”
ทั้งในด้านของสุขภาพพลานามัย ทั้งในด้านของการสอบสวน สืบสวนไปค้นหาความเป็นจริง
แต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ไม่ควร”เงียบ”จนเกินไป
ผู้ที่เคารพ ห่วงใย ย่อมปรารถนาได้ยินเสียง และได้รับรู้ความเป็นจริงจากด้านของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
โดยเฉพาะ “หัวใจ”เท่ากำปั้นว่า “รู้สึก”อย่างไร แบบไหน