FootNote : พัฒนาการภายในเรือเหล็ก ความจัดเจน‘ประชาธิปัตย์’
แม้ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์อันสะท้อนผ่านบทสนทนาใน”กรุ๊ปไลน์” ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารภายใน จะรุนแรง แข็งกร้าวอย่างยิ่ง
แต่แนวโน้ม และความไม่เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถอนตัวก็ดำรงอยู่อย่างสูง
ไม่ว่าจะเป็น “ภายใน” ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็น “ภายนอก” พรรคประชาธิปัตย์
บทสรุปก็เป็นอย่างที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ว่าเป็นธรรมชาติของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง เมื่อกระทบกับความไม่พอใจก็ย่อมจะแสดงออกอย่างร้อนแรง
ในที่สุดแล้ว หากมติของพรรคอันผ่านการหารือระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค กับ ส.ส.ของพรรคแล้วออกมาอย่างไร ทุกคนก็พร้อมปฏิบัติตาม
เหมือนกับมติของพรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลเมื่อเดือนมิถุนายน
ถามว่าเหตุใดไม่ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ไม่ว่า นายจุติ ไกรฤกษ์ จึงมั่นใจเป็นอย่างสูงว่า ในที่สุดแล้วมติของพรรคประชาธิปัตย์จะยังคงเป็นส่วนหนึ่งในรัฐบาล
มิใช่เพราะว่า 2 คนนี้ร่วมอยู่ในครม.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
แต่เพราะว่า 2 คนนี้ตระหนักในอำนาจที่ชี้ทิศทางพรรคอย่างดี
อย่างน้อยมติพรรคประชาธิปัตย์ 24 ต่อ 17 ที่พร้อมจะโหวตให้ความไว้วางใจแม้กระทั่ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็เด่นชัดยิ่งว่าแนวโน้มที่ดำรงอยู่ภายในพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างไร
ที่มีข่าวปล่อยเชิงวิเคราะห์ออกมาว่า 17 เสียงที่ต้องการให้โหวตไม่ไว้วางใจต่อรัฐมนตรีบางคนนั้นเป็นอิทธิพลของอดีตหัวหน้าพรรคคนหนึ่งที่มีบทบาทน้อยลงเป็นลำดับ
กลุ่มของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ต่างหากที่กุมอำนาจอยู่
ไม่ว่าท่าทีต่อการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าท่าทีแสดงความรังเกียจต่อรัฐมนตรีที่อื้อฉาวบางคน เสมอเป็นเพียงการแสดงออกเพื่อเก็บเกี่ยวคะแนนและความนิยมเอาไว้
เก็บเกี่ยวว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังรักษาหลักการและเงื่อนไขที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เก็บเกี่ยวว่าไม่อยากพายเรือให้ “โจร”นั่ง
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงพรรคประชาธิปัตย์ก็น่าจะรู้ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 แล้วว่าเรือที่โดยสารด้วยเป็นเรืออะไร
นักการเมืองซึ่งมากด้วยเขี้ยวคมย่อมรู้ว่าเรือนี้มิได้เป็น “เรือเหล็ก”