เหตุปัจจัยใดทำให้กรณี”แม่ผ่องพรรณพัฒนา” และกรณี”อโลฮา ฮา วาย” กลายเป็น “กระแส”ในทางสังคม

1 เป็นกระแสในลักษณะ”ต่อเนื่อง”
1 เป็นกระแสในลักษณะ “อื้อฉาว” กระทั่งคนที่มีส่วนมิอาจนิ่งเฉยอยู่เงียบ-เงียบ
จำเป็นต้องออกมา “ชี้แจง”
กรณี”แม่ผ่องพรรณ”ตัวของ”แม่ผ่องพรรณ”อาจจะเงียบ แต่องค์ประกอบแวดล้อมอื่นๆยากที่จะเงียบได้
จำเป็นต้องออกมา”ชี้แจง”
ยิ่งกรณี”อโลฮา ฮาวาย”ยิ่งต้องใช้งานโฆษกในระดับ”พล.ต.”ออกโรง
ทั้ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด จาก”ทำเนียบ”
ทั้ง พล.ต.คงชีพ ตันตระวณิชย์ จาก”กลาโหม”
“ความอื้อฉาว” ต่างหากคือ “ความจำเป็น” และเป็นแรงผลักอย่างสำคัญ
อย่างไรหรือที่เรียกว่า “อื้อฉาว”

กรณี”แม่ผ่องพรรณพัฒนา”มีตัวละครดำเนินไปอย่างมากด้วยสีสันถึงขั้น”พรรณรายฉายฉัน”
ดูจากการแต่งองค์ ทรงเครื่อง
ดูจากการปรากฏตัว ไม่ว่าท่ามกลางสายฝนที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
ดูจากการดำเนินกิจกรรม”เกี่ยวข้าว”
เป็นไปอย่างโอ่อ่า อลังการ สอดรับกับอารมณ์ของคนที่เสพติดละคร หลังข่าว
ยิ่งตามไปดู”อโลฮา ฮาวาย”ยิ่งยิ่งกว่า”พิษสวาท”

แต่ละ”ดราม่า”มิได้มาจากนายทหารระดับ”พล.อ.”อยู่ในแวดวงของ “ชายชาตรี”อย่างด้านเดียว
ตรงกันข้าม 1 เป็นตัวละคร”ฝ่ายหญิง”
ตัวละครฝ่ายหญิงนั่นแหละ คือ”แม่เหล็ก”แท่งมหึมา แต่งแต้มให้เกิดสีสัน
ยิ่งมีเรื่องรักๆใคร่ๆ “แจม”เข้ามา
พลันที่มีกระบวนท่า 1 ซึ่งสำคัญ คือความพยายามในการปิดกั้น ข่าวสาร โดยเฉพาะ”รายชื่อ”ร่วมคณะ
ยิ่งทำให้”ยั่วเร้า” เข้าไปยัง”ต่อม”อยากรู้
ตรงนี้แหละคือ ปัจจัยอันสำคัญในการไปเติม”น้ำมัน”เข้าไปยัง “กองเพลิง”ซึ่งดำรงอยู่ในลักษณะ “ไม้หลัว”
“ไม้หลัว” นั้นติดไฟง่าย ติดไฟเร็ว
ทำให้กรณี “แม่ผ่องพรรณพัฒนา” และกรณี”อโลฮา ฮาวาย”บังเกิดการพัฒนาและต่อยอด จากการซุบซิบ นินทา ปากต่อปากกระทั่งกลายเป็น
“ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์” หรือ “นาครสนทนา”
ทำท่าว่าจะเป็นฝีมือระดับ”พล.ต.”จากทำเนียบรัฐบาลและจากกระทรวงกลาโหม
ทำท่าว่าจะไม่ใช่”กลุ่มการเมือง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน