ไข่และหน้ากาก : บทบรรณาธิการ

ไข่และหน้ากาก : บทบรรณาธิการ – นับจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดยกระดับขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลแจ้งแผนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินวันที่ 24 มี.ค. เพื่อให้มีผลวันที่ 26 มี.ค. ราคาไข่เพื่อการบริโภคก็แพงขึ้นทันที

แม้รัฐบาลยืนยันว่าจำนวนการผลิตไม่ขาดตลาด แต่ก็รับทราบว่าสภาพความเป็นจริงเป็นอีกเรื่อง

กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ แจ้งว่าพยายามแก้ไขปัญหา ทั้งขอความร่วมมือ และใช้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กักตุนสินค้า

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ สภาพการณ์ไข่ราคาแพงและหายากจะลากยาวเหมือนกับสินค้าจำเป็นในช่วงเวลานี้อย่างหน้ากากอนามัย หรือเจลล้างมือหรือไม่

เพราะนับตั้งแต่สถานการณ์ยกระดับขึ้น สินค้าที่ไม่น่าขาดตลาดกลับเป็นสินค้า หายาก

ปกติแล้วไข่เป็นสินค้าที่มีราคาเข้าถึงคนทุกกลุ่ม เป็นอาหารที่แพร่หลายและสะดวกสำหรับประชาชนในช่วงเก็บตัวอยู่บ้าน

แต่ช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่ปกติ จึงเริ่มมีสัญญาณจนคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดปัญหาไข่ราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเจตนาฉวยโอกาส หรือทำไปตามกลไกตลาด

ดังนั้นการเตรียมพร้อมของรัฐบาลเพื่อรับมือเรื่องนี้น่าจะทำได้ทันท่วงที หรือป้องกันไว้ก่อนได้ด้วยการบริหารจัดการ

รัฐบาลเองระบุว่าการไล่จับกุมผู้ค้ารายย่อยอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด ทั้งยังให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบหาสาเหตุทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ถึงปลายทาง

การรณรงค์ว่าเราจะผ่านวิกฤตไปได้ด้วยกัน ช่วงที่โรคระบาดเกิดขึ้นทั่วโลก จึงไม่ควรเป็นเพียงข้อความปลุกกำลังใจเท่านั้น

แต่ต้องหมายถึงการบริหารจัดการที่มีการวางแผนทั้งรุกและรับ ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นตามสถานการณ์ทุกขณะ

กรณีไข่ไก่ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปริมาณการผลิตไข่ไก่จะมีการผลิตวันละประมาณ 41,000,000 ฟอง ในจำนวนนี้บริโภคในประเทศประมาณ 39,000,000 ฟอง

ส่วนคดีหน้ากากอนามัยที่มีผู้โพสต์อ้างทางออนไลน์ว่าจัดหาได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น ตำรวจจะแถลงผลการสอบสวนได้ในสัปดาห์นี้

ทั้งสองเรื่องนี้กำลังเป็นคำถามว่าสถานการณ์คลี่คลายไปแล้วหรือไม่ ประชาชนหาซื้อสินค้าทั้งสองอย่างเพื่อการดำรงชีวิต ได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นแล้วหรือยัง

ไข่และหน้ากาก

นับจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดยกระดับขึ้น โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลแจ้งแผนประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินวันที่ 24 มี.ค. เพื่อให้มีผลวันที่ 26 มี.ค. ราคาไข่เพื่อการบริโภคก็แพงขึ้นทันที

แม้รัฐบาลยืนยันว่าจำนวนการผลิตไม่ขาดตลาด แต่ก็รับทราบว่าสภาพความเป็นจริงเป็นอีกเรื่อง

กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่กำกับดูแลเรื่องนี้ แจ้งว่าพยายามแก้ไขปัญหา ทั้งขอความร่วมมือ และใช้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กักตุนสินค้า

แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ สภาพการณ์ไข่ราคาแพงและหายากจะลากยาวเหมือนกับสินค้าจำเป็นในช่วงเวลานี้อย่างหน้ากากอนามัย หรือเจลล้างมือหรือไม่

เพราะนับตั้งแต่สถานการณ์ยกระดับขึ้น สินค้าที่ไม่น่าขาดตลาดกลับเป็นสินค้า หายาก

ปกติแล้วไข่เป็นสินค้าที่มีราคาเข้าถึงคนทุกกลุ่ม เป็นอาหารที่แพร่หลายและสะดวกสำหรับประชาชนในช่วงเก็บตัวอยู่บ้าน

แต่ช่วงเวลาที่สถานการณ์ไม่ปกติ จึงเริ่มมีสัญญาณจนคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดปัญหาไข่ราคาแพงขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเจตนาฉวยโอกาส หรือทำไปตามกลไกตลาด

ดังนั้นการเตรียมพร้อมของรัฐบาลเพื่อรับมือเรื่องนี้น่าจะทำได้ทันท่วงที หรือป้องกันไว้ก่อนได้ด้วยการบริหารจัดการ

รัฐบาลเองระบุว่าการไล่จับกุมผู้ค้ารายย่อยอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกจุด ทั้งยังให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบหาสาเหตุทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ถึงปลายทาง

การรณรงค์ว่าเราจะผ่านวิกฤตไปได้ด้วยกัน ช่วงที่โรคระบาดเกิดขึ้นทั่วโลก จึงไม่ควรเป็นเพียงข้อความปลุกกำลังใจเท่านั้น

แต่ต้องหมายถึงการบริหารจัดการที่มีการวางแผนทั้งรุกและรับ ปรับเปลี่ยนยืดหยุ่นตามสถานการณ์ทุกขณะ

กรณีไข่ไก่ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ปริมาณการผลิตไข่ไก่จะมีการผลิตวันละประมาณ 41,000,000 ฟอง ในจำนวนนี้บริโภคในประเทศประมาณ 39,000,000 ฟอง

ส่วนคดีหน้ากากอนามัยที่มีผู้โพสต์อ้างทางออนไลน์ว่าจัดหาได้มากกว่า 200 ล้านชิ้น ตำรวจจะแถลงผลการสอบสวนได้ในสัปดาห์นี้

ทั้งสองเรื่องนี้กำลังเป็นคำถามว่าสถานการณ์คลี่คลายไปแล้วหรือไม่ ประชาชนหาซื้อสินค้าทั้งสองอย่างเพื่อการดำรงชีวิต ได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นแล้วหรือยัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน