หลักปฏิบัติต้องชัด : บทบรรณาธิการข่าวสด
หลักปฏิบัติต้องชัด : บทบรรณาธิการข่าวสด – การกักตัวคนไทย 158 คนที่เดินทางจาก ต่างประเทศมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ดำเนินการเรียบร้อยช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุวุ่นวายและไม่เข้าใจกันอยู่พักใหญ่
ความไม่เข้าใจดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะระหว่างคนไทยที่กลับจากต่างประเทศกับเจ้าพนักงานเท่านั้น ยังรวมถึงประชาชนที่ได้รับข่าวสาร
โดยเฉพาะประเด็นการออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นการตัดสินใจของเจ้าพนักงานหรือกลุ่มผู้เดินทางกลับไม่ยินยอม
เป็นความไม่สมัครใจร่วมมือ หรือเป็นข้อบกพร่องเรื่องการบริหารจัดการของ ผู้ปฏิบัติงาน
ช่วงที่มีคนหลุดรอดออกไป ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงเป็นฝ่ายระบุว่า บุคคลที่เดินทางกลับเข้าประเทศไทยจะต้องกลับมารายงานตัว มิฉะนั้นจะต้องถูกดำเนินการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น
จากนั้นทุกคนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวก็ให้ความร่วมมือ และเข้ารับการกักตัวตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด
แต่ช่วงเวลาที่เกิดความไม่เข้าใจที่ตรงกัน ทำให้บุคคลเหล่านี้ถูกตำหนิและถูกประณามว่านำความเสี่ยงและอันตรายมาสู่ประเทศ ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนคนอื่นๆ
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลส่วนตัวที่รวมถึงเลขหนังสือเดินทางหลุดเผยแพร่ทางออนไลน์
กลายเป็นความเสี่ยงและความโชคร้ายสำหรับผู้ที่ไม่มีเจตนาหนีโดยไม่รู้ตัว
เหตุการณ์ผู้โดยสารออกจากสนามบินสุวรรณภูมิจึงน่าจะเป็นบทเรียนอีกเรื่องสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐผู้กำหนดนโยบายและมาตรการ ว่าจะต้องมีความชัดเจนในรายละเอียดของการปฏิบัติงาน ให้เป็นมาตรฐานร่วมกัน
หลังจากที่มีบทเรียนเรื่องที่ปล่อยให้มีการเปิดสนามมวยลุมพินี ปล่อยให้มีการเปิดสถานบันเทิง ทั้งที่เป็นช่วงต้องระมัดระวังและงดกิจกรรมทุกด้าน จนกลายเป็นจุดแพร่ระบาดของเชื้อสองจุดใหญ่
หากรัฐเรียนรู้และมีหลักปฏิบัติเพื่อป้องกันปัญหา นอกจากทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและนำไปสู่ความร่วมมือในสังคมแล้ว ยังช่วยบรรเทาความขัดแย้งระหว่างประชาชนด้วย
เพราะคงไม่มีใครต้องการถูกตำหนิ ว่าไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม
