เหมือนกับกรณี”แม่ผ่องพรรณพัฒนา”ไม่ส่ง”ผลสะเทือน”อะไรใน ทางการเมืองเลย
พลันที่ “ป.ป.ช.”ออกมา”การันตี”
ทุกอย่างก็ “เรียบโร้ย” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ก็เกษียณจากตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมท่ามกลางเสียงโห่ร้องอวยชัย
แม้จะมีการสอบแต่คะแนนก็จะออกมา 9 ต่อ 0
เหมือนกับกรณี”อโลฮา ฮาวาย” จะจบลงในแบบ”แฮปปี้ เอนดิ้ง” พระเอก นางเอก ครองรักกันด้วยความสุขสม
พลันที่ “สตง.” ออกมา”การันตี”
ทั้งๆที่เครื่องบินโบอิ้ง 747-400 0 จุผู้โดยสารได้มากถึง 410 คน แต่ทริป”อโลฮา ฮาวาย”มีเพียง 38 และไปเพียง 36
ทั้งๆที่ค่าอาหารมากถึง 600,000 บาท
ไม่มีคำถามถึง “ความเหมาะสม” ไม่มีการตรวจสอบในเรื่องจำนวนคนและมาตรการการเช่าเหมาลำ
ไม่มี”คำถาม” ไม่มี”ผลสะเทือน”จริงหรือ
หากสังเกต “ปฏิกิริยา” อันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากบรรดา “กองเชียร์”
ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
ขอให้จับจากท่าทีของกองเชียร์ระดับ นิติพงศ์ ห่อนาค ขอให้จับจากท่าทีของกองเชียร์ระดับ ชัย ราชวัตร
ไม่เหมือนเดิม
ขณะเดียวกัน หากสัมผัสจากท่าทีและความเห็นจาก”สื่อ”อันเคยเป็น”กองเชียร์” ก็จะค่อยๆรับรู้ในความเปลี่ยนแปลง
เริ่มตั้งข้อสงสัยกับ “บางคน” มากยิ่งขึ้น
การนำเอาคำว่า “ฟอกขาว” มาแสดงให้เป็นบทบาทของ”สตง.” ถือได้ว่ารุนแรง
เหมือนกับ”ปฏิกิริยา”ต่อการแต่งตั้ง”สนช.”ชุดใหม่
บางสื่ออาจใช้เพียงคำ “ทหารพรึบ” มาอธิบาย แต่บางสื่อลงลึกถึงระนาบ
“ว่อน 33 ฝักถั่วนักรบ”
การนำเอาคำว่า “ฝักถั่ว” มาวางน้ำหน้าในลักษณะขยายคุณสมบัติของ “นักรบ”
ถือได้ว่า “แรง” ในระดับ”แรงส์”
แรกที่มีการแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ยังไม่มีคำว่า “ฝักถั่ว” สะท้อน”คุณภาพ”
แต่จากเดือนพฤษภาคม 2557 ผ่านมาถึงเดือนตุลาคม 2559 เป็นเวลา 2 ปีเศษ
ลักษณะแห่ง”ฝักถั่ว”จึงเป็นคำ”ขยาย”
ขยายบทบาทของ “สนช.” ขยายความเป็นจริงของ”คสช.” ความเป็นจริงของ”รัฐประหาร”
ทั้งหมดนี้คือ “ผลสะเทือน”
