FootNote : ปฎิบัติการ ไล่ล่า ทำลายล้าง จากทำเนียบฯ พลังประชารัฐ

การพบชาวบ้านที่ซอยหมอเหล็งของ นายชวน หลีกภัย เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ การไปเยี่ยมเยียนเจ้าหน้าที่ที่สงขลาของ นายถาวร เสนเนียม เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้
ไม่มีการตั้งข้อสังเกตจากทำเนียบรัฐบาล ไม่มีการตั้งข้อสังเกตจากพรรคพลังประชารัฐ
นักร้องไม่ทำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการกกต.แต่อย่างใด
แต่พลันที่ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ และพนักงานมูลนิธิไทยซัม มิทออกพบ แจกข้าวของและเงินก้นถุงจำนวน 2,000 บาทต่อชาว บ้านที่บางพลี สมุทรปราการ
ก็กลายเป็นประเด็น เกิดการตั้งข้อสังเกตจากทำเนียบรัฐบาล เกิดข้อสงสัยจากพรรคพลังประชารัฐ
และนำไปสู่การตั้งเป็น “ประเด็น” ให้กับ “กกต.

แท้จริงแล้ว สภาพการณ์ทางสังคมนับแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เพราะความเดือดร้อนได้เกิดขึ้นในลักษณะทุกหย่อมย่านแล้วในทางเป็นจริง
กระทั่ง สมเด็จพระสังฆราช ประทานข้อเสนอแนะให้ทุกวัดแปรสภาพเป็น “โรงทาน
กระทั่ง คนมีเงินจำนวนหนึ่งประกาศเอาเงินและทรัพย์สินส่วนตัวออกบริจาคช่วยเหลือเยียวยา ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่ย่านเพชรเกษม ไม่ว่าที่ย่านดอนเมือง
จึงปรากฏภาพประชาชนที่มีความเดือดร้อนเข้าแถวกันยาวเหยียดอย่างชนิดไม่กลัวเกรงต่อไวรัส
แต่แล้วเมื่อมูลนิธิไทยซัมมิททำอย่างที่คนอื่นทำบ้างตามแนวทางอันมาจากองค์สมเด็จพระสังฆราชกลับกลายเป็นปัญหา
ถูกเฝ้ามอง ติดตามจองเวรจากรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ

ความจริงที่มีความพยายามบดขยี้พรรคอนาคตใหม่ ทำลาย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างเป็นระบบ อย่างเป็นกระบวนการ ก็เป็นเรื่องที่สังคมตั้งข้อกังขามาแล้ว
กระทั่ง เกิดการชุมนุมในแบบแฟล็ชม็อบและกลายเป็นปรากฏการณ์ทางการเมือง
ก็เนื่องมาแต่การยุบพรรคอนาคตใหม่ มิใช่หรือ
ลักษณะการไล่ล่าต่อมูลนิธิไทยซัมมิท ต่อ นางสมพร จึงรุ่ง เรืองกิจ จึงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจากความอาฆาตแค้น
ความใจแคบอันมาจากทำเนียบรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน