จุนเจือพึ่งพากันยามยาก

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

จุนเจือพึ่งพากันยามยาก – กรณีการดำเนินคดีกับผู้นำสิ่งของเครื่องใช้และอาหารไปแจกให้ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ทั้งที่สถานีหัวลำโพง และที่จังหวัดภูเก็ต สร้างความไม่สบายใจไม่น้อย

ขณะเดียวกัน ก็ต้องเข้าใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการด้วย เพราะต้องทำตามหน้าที่ ป้องกันไม่ให้เกิดการใกล้ชิด เบียดเสียดกันรับของแจก สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงมหาดไทย ประสานเสียงเห็นไปในทางเดียวกัน ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความหวังดี มีจิตใจเอื้อเฟื้อที่อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามยาก

แต่ก็ขอให้แจ้งหน่วยที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อจัดระเบียบ ป้องกันไม่ให้เกิดความโกลาหล

สําหรับเจ้าหน้าที่นั้น แม้จะต้องยึดถือกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่ก็ต้องใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดความขุ่นเคืองและกระทบกระทั่งกัน

การจัดเตรียมพื้นที่และจัดระเบียบให้ถูกสุขอนามัย สอดรับกับการบริหารจัดการลดการแพร่ระบาด ตลอดจนการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล การสวมใส่หน้ากากอนามัย ยังมีความจำเป็น

แต่ถ้าหากเป็นความผิดทางกฎหมายจนถึงขั้นต้องดำเนินคดี ก็สมควรพิจารณาให้สมควรแก่เหตุ ใช้ดุลพินิจด้วยความเข้าใจ และมีเมตตา มากกว่าใช้อาญาฟาดฟันซ้ำในยามทุกข์ยาก

หวังว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะนำไปเป็นบทเรียน ไม่ให้เกิดซ้ำ

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ในความยากเข็ญ ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับความยากลำบาก ก็ได้เห็นมิตรจิตน้ำใจ ออกมาช่วยเหลือกันคนละไม้ละมือ เท่าที่กำลังทรัพย์และสติปัญญาจะพึงมี

ในภาพใหญ่ที่น่าประทับใจ ก็ได้เห็นโครงการข้าวแลกปลา จากชาวเลภูเก็ตกับชาวนาในภาคอีสาน พืชผักสวนครัวแลกผลิตภัณฑ์ด้านอาหาร ระหว่างชนเผ่ากับคนพื้นราบ

โดยมียานพาหนะของกองทัพ รถยนต์ของหน่วยราชการ ช่วยอาสาขนส่งอำนวยความสะดวกไปให้ถึงถิ่นอาศัยของแต่ละชุมชน อันเป็นการช่วยเหลือกันในระดับรากหญ้า

ไม่รวมถึงการช่วยเหลือและให้กำลังใจบุคลากรทางแพทย์ ที่ภาคเอกชนร่วมด้วยช่วยกันอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการระบาดของโรค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน