ยืดใช้ต่ออีก 1 เดือน
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ยืดใช้ต่ออีก 1เดือน – คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ตามที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอต่อที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
ให้ขยายเวลาประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกไปอีกหนึ่งเดือน ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม รวมถึงจำกัดการเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ต่ออีก 30 วัน
ห้ามบุคคลทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. รวมทั้งงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตข้ามพื้นที่จังหวัด และห้ามเข้าไปในพื้นที่ หรือสถานที่ที่มีคนจำนวนมากและทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเสี่ยงการติดเชื้อ
หลังประกาศใช้มาตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม และสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เมษายน
สําหรับเหตุผลที่นำมาสนับสนุนนั้น อ้างว่ามาจากผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน โดยพบว่ากว่าร้อยละ 70 ให้คงมาตรการเคอร์ฟิวและขยายการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ต่ออีก
นอกจากนี้ ยังอ้างด้วยว่าหน่วยงานด้านสาธารณสุขก็เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว เนื่องจากหากผ่อนคลายข้อปฏิบัติและกลับไปสู่ภาวะปกติ อาจจะทำให้การแพร่ระบาดกลับมาอีก จนควบคุมยากกว่าเดิม
แต่ในสภาพความเป็นจริงขณะนี้ พบว่าการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นั้น สามารถควบคุมได้ในวงจำกัดแล้ว ด้วยศักยภาพของบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข
ขณะเดียวกันประชาชนยิ่งมีความเป็นอยู่อย่างลำบากมาก สถิติการฆ่าตัวตายก็ขยายเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม การขยายวันประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินและเคอร์ฟิวครั้งนี้ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกด้านว่าไม่น่าเป็นการควบคุมโรคเพียงอย่างเดียว มีความน่าสงสัยมีนัยยะทางการเมือง ด้วยหรือไม่
เพราะที่ผ่านมา การบริหารด้านการเยียวยา ชดเชย ตลอดจนมาตรการดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ยังทำได้อย่างไม่ทั่วถึงถ้วนหน้า จนนำมาซึ่งการประท้วงเรียกร้องเป็นระยะ
มีความพยายามไม่ให้มีการเปิดสภาสมัยวิสามัญ รับฟังเสียงจากผู้แทนของประชาชน ขณะเดียวกันก็เลือกที่จะรับฟังความคิดเห็นจากตัวแทนกลุ่มทุนและมหาเศรษฐีชั้นนำแทน
ระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ จะพิสูจน์ว่าจริงๆ แล้ว ขยายมาตรการที่เป็นยาแรง เพื่อควบคุมโรคเท่านั้นจริงหรือไม่