คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ผลการสอบสวนผู้ต้องสงสัยวางระเบิดภายในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ขยายผลย้อนไปพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุคนเดียวกันกับการวางระเบิดอีก 5 เหตุการณ์ เป็นเรื่องที่น่าตกใจ
เพราะระยะเวลาที่ก่อเหตุตั้งแต่ครั้งแรกในปี 2550 จนมาถึงปัจจุบันนั้น กินเวลานาน 10 ปี
คำให้การในเบื้องต้นของผู้ต้องสงสัยรายเดียวกันนี้ ระบุว่าไม่ชอบทหารและเจ็บแค้นที่มีผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนารามราชวรวิหารในเหตุการณ์ที่ทหารสลายการชุมนุมปี 2553
นับเป็นคำให้การที่น่าตกใจและน่าสลดใจ
การกระทำที่ใช้ความรุนแรงจัดการกับความเจ็บแค้นนั้นย่อมไม่เป็นที่ยอมรับ ทั้งในด้านศรัทธาทางศาสนา และหลักสันติภาพสากล
ไม่ว่าเหตุผลของการใช้ความรุนแรงนี้จะเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองมากน้อยเพียงใด
การดำเนินคดีผู้ก่อเหตุและลงโทษที่พิจารณาจากผลกระทบ จึงน่าจะเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างไม่มีปัญหา
แต่สิ่งที่สำคัญคือคนในสังคมต้องแยกแยะให้ดีระหว่างการแก้แค้นด้วยการใช้ความรุนแรงกับการทวงความยุติธรรม โดยสันติวิธี
เนื่องจากการทวงคืนความยุติธรรมของผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในช่วง 10 ปีมานี้ โดยเฉพาะเหตุการณ์ปี 2553 ที่เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 100 รายนั้นยังคงเป็นจุดสำคัญของกระบวนการปรองดอง
มีญาติ มิตรสหาย และผู้คนจำนวนมากที่ยึดหลักสันติวิธีในการทวงถามการคลี่คลายคดี และการเอาผิดผู้ที่ต้องรับผิดชอบเพื่อเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติ ศาสตร์
การทวงความยุติธรรมโดยสันตินี้ควรได้รับการตอบสนองอย่างจริงจัง เพื่อปิดกั้นและป้องกันความรุนแรง
