ที่เคยคิดกันว่าภายใน”ประชาธิปัตย์”ต้องล้างหูรอฟังเสียงจากนาย หัว ชวน หลีกภัย

เริ่มจะไม่ใช่

แม้ นายชวน หลีกภัย จะยัง “อุ้ม” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่อย่างเหนียวแน่นและมั่นคง

แต่ความโน้มเอียงกำลังเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

ทั้งๆที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกจาก “ประชาธิปัตย์”ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556

และไม่เคยหวนกลับมาอีกเลยในฐานะ”สมาชิก”

แต่ไม่ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะขยับไปทางไหนภายใน “ประชาธิปัตย์” ล้วนเงี่ยหูฟัง

ทำไมจึงต้องเป็น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

แค่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาประกาศสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี

ความหวั่นไหวก็บังเกิด

แม้จะเป็นคำประกาศอันมาจาก “มูลนิธิ” มวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศ (มอป.)

แต่อย่าลืมการเดินเข้า”ประชาธิปัตย์”ของ 8 อดีตส.ส.

ทั้ง 8 คนที่นำโดย นายถาวร เสนเนียม และตามมาด้วย นายวิทยา แก้วภราดัย เป็นใคร

คือ คนที่ร่วมสู้กับ”ลุงกำนัน”เป็นเวลา 204 วัน

การหวนกลับ”ประชาธิปัตย์”ของทั้ง 8 คนจึงมิได้เป็นการหาที่ยืนอย่างเลื่อนลอย

คำเตือนจาก นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล จึงเปล่งความหมาย

การออกใบอนุญาตให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก 4-5 ปีหลังเลือกตั้ง

จึงเท่ากับเป็นการส่ง “สัญญาณ”

เหมือนกับเป็นสัญญาณให้กับ 8 แกนนำกปปส.ที่มี นายถาวร เสนเนียม เป็นกำลังสำคัญ

แต่เป้าหมายแท้จริง คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

แวดวงทางการเมืองต่างเฝ้ารอว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังจะประกาศเสนอตัวเป็น “นายกรัฐมนตรี” ต่อไปอีกหรือไม่ และจะหาทางออกอย่างไรจึงจะยังดูเท่

ทั้งๆที่ความเท่ไม่สามารถกินได้ก็ตาม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน