ชี้วิ่งใส่แมสก์ทำขาดออกซิเจน

แนะทิ้งระยะห่าง-งดสัมผัส-ล้างมือ

ชี้วิ่งใส่แมสก์ทำขาดออกซิเจน – หลังรัฐบาลคลายล็อกเปิดสวนสาธารณะ ให้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และการออกกำลังกายที่เป็นส่วนบุคคลได้ โดยขอให้ผู้ที่อยู่ในสวนทั้งหมดใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า รวมถึงการวิ่ง โดยให้เหตุผลว่าการวิ่งนั้นสามารถแพร่เชื้อได้ไกลกว่าการเดินทั่วไป จึงจำเป็นต้องให้สวมใส่หน้ากากอนามัย

ทั้งนี้ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการผ่อนปรนเปิดสวนสาธารณะให้ออกกำลังกาย ว่า สถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ ต้องคุมเข้มตั้งแต่มีจุดคัดกรองพนักงานดูแล และผู้มาใช้บริการ สังเกต และสอบถามอาการเบื้องต้น หรือใช้เครื่อง วัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบว่ามีไข้หรือมีอุณหภูมิร่างกายมากกว่าหรือเท่ากับ 37.5 องศาเซลเซียส มีอาการป่วย เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก หรือเหนื่อยหอบ ต้องงดให้บริการและแนะนำให้ไปพบแพทย์ทันที

ส่วนผู้ดูแลหรือผู้ปฏิบัติงานในสวนสาธารณะต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ให้บริการ ผู้มาใช้บริการทุกคนสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเมื่อมีการพูดคุยกับพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานในสวนสาธารณะ พร้อมทั้งจัดให้มีจุดล้างมือพร้อมสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ ในบริเวณที่มีการทำกิจกรรมอย่างทั่วถึง

พญ.พรรณพิมลกล่าวว่า สำหรับประชาชนที่วิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ขณะวิ่งไม่ควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย เนื่องจากเวลาออกกำลังกาย ร่างกายจะต้องการออกซิเจนมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จากการหายใจเร็วขึ้น การสวมใส่หน้ากากจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ โดยเฉพาะหน้ากาก N95 ที่ป้องกันอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่าหน้ากากอนามัย ก็จะยิ่งทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ ที่ออกมาจากร่างกายสะสมอยู่ในหน้ากาก มีโอกาสที่จะหายใจไม่ทันได้

ดังนั้นนักวิ่งทุกคนจึงควรจะเพิ่มระยะห่างในการวิ่งตามกันให้มากขึ้นเท่าที่จะทำได้ เพราะยิ่งห่างกันเท่ากับโอกาสในการติดเชื้อก็ยิ่งน้อยลงด้วย และที่สำคัญอย่าไปสัมผัสกับพื้นผิวสัมผัสในที่สาธารณะต่างๆ โดยไม่จำเป็น

ส่วนผู้ที่เดินออกกำลังกายให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยระยะใกล้ชิด ไม่ใช้มือสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น และหลังออกกำลังกายให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ นอกจากนี้เมื่อกลับถึงบ้านให้เปลี่ยนเสื้อผ้าและอาบน้ำทันที เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานควรทำความสะอาดบริเวณพื้นที่ทางเดินออกกำลังกาย พื้นถนนประตู สวน เก้าอี้ ม้านั่ง จุดให้บริการน้ำดื่ม โดยเฉพาะก๊อกน้ำดื่ม อุปกรณ์และอื่นๆ ที่มีการใช้ร่วมกันภายในสวนสาธารณะเป็นประจำทุกวันก่อนและหลังเปิดสวนสาธารณะ ด้วยน้ำยาทำความสะอาด วันละ 2 ครั้ง

ดยเฉพาะบริเวณที่เป็นจุดสัมผัสหรือที่ใช้ร่วมกัน หากมีผู้ใช้บริการมากให้เพิ่มความถี่ทำความสะอาด อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง จัดระยะห่างระหว่างเก้าอี้นั่งในบริเวณสวนสาธารณะให้มีระยะห่างกัน 1-2 เมตร และจัดให้มีถังขยะสภาพดีที่มีฝาปิด สำหรับทิ้งขยะ และให้รวบรวมขยะออกจากสวนสาธารณะทุกวันเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกต้องต่อไป

สำหรับห้องส้วมให้ทำความสะอาดอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังผู้ใช้บริการเข้าใช้บริการด้วยน้ำยาทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคด้วยสารฆ่าเชื้อโรคบริเวณจุดที่มีการใช้ร่วมกัน ได้แก่ กลอนหรือลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ ที่รองนั่งโถ เป็นต้น เพื่อสร้างสุขอนามัยที่ดี

พญ.พรรณพิมลกล่าวด้วยว่า “ทั้งขอความร่วมมือประชาชน ที่ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการของสวนสาธารณะอย่างเคร่งครัดด้วย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน