พลันที่มีการเห็นชอบอนุมัติงบประมาณ 54,000 ล้านบาทเพื่ออุ้ม “การบินไทย” อนาคตของ “การบินไทย” กับ อนาคตของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
หากปฏิบัติการอุ้ม”การบินไทย” ประสบความสำเร็จ หนทาง ของรัฐบาล หนทางของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ราบรื่น
เนื่องจากชะตากรรมที่ “การบินไทย” และ “รัฐบาล” โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังประสบอยู่เป็นชะตา กรรมอย่างเดียวกัน
นั่นก็คือ ชะตากรรมอันเนื่องแต่ขาด “สภาพคล่อง” ดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็นการขาดทุนอย่างสะสม มีความจำเป็นต้องกู้เงินมาเพื่อให้สามารถเดินหน้าในทางธุรกิจ
เป็นสถานการณ์ในทางเศรษฐกิจ ในทางธุรกิจ เป็นสถานการณ์อันวางอยู่บนฐานแห่งความเชื่อมั่น

ในฐานะ “การบินแห่งชาติ” เป็นหน้าเป็นตาของประเทศ การบินไทยขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง หากเป็นธุรกิจโดยทั่วไปก็ต้องเจ๊ง เลิกล้มกิจการ
แต่ที่สามารถดำรงอยู่ได้ก็เพราะต้องการรักษาศักดิ์ศรีอันเนื่องจากเป็น”สายการบินแห่งชาติ”
มีส่วนอย่างสำคัญในการติด”ธงไทย”รุกไปในทางสากล
แต่สภาพความเป็นจริงของ”การบินไทย”ก็เป็นสภาพอย่างที่รับรู้กันว่า มรดกของ”เจ้าคุณปู่”อันชื่อว่า”การบินไทย”นี้ที่ประสบกับปัญหาอย่างต่อเนื่อง
มูลเชื้ออย่างแท้จริงก็เนื่องจากเป็นมรดกอันเนื่องจากการบริหารที่ขาดประสิทธิภาพ เป็นการบริหารที่ล้าหลัง สืบทอดความล้าหลังในกระบวนการบริหารธุรกิจ
ไม่ว่าจะมองจากนักธุรกิจ ไม่ว่าจะมองจากนักบริหารก็มองไม่เห็นอนาคต มองเห็นแต่ด้านที่เสื่อมทรุดเลวร้าย
การทุ่มเงิน 54,000 ล้านลงไปเท่ากับละลายลงกลางทะเล

การประกาศของรัฐบาล การยืนยันที่จะเข้าไปโอบอุ้ม เยียวยาต่อ “การบินไทย” จึงเท่ากับเป็นการเอาอนาคตของประเทศ อนาคตของรัฐบาลเป็นเครื่องค้ำประกันอนาคตของ”การบินไทย”
ในขณะที่ตัวของรัฐบาลเองก็อยู่ในสถานะปักหัวดิ่งลงเป็นลำดับตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
และเห็นเด่นชัดหลังการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562
ที่มองเห็นว่าเป็นความสำเร็จกลับกลายเป็นความล้มเหลว ที่มองเห็นเป็นชัยชนะกลับเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่าเป็นความพ่ายแพ้ การดำรงอยู่ของรัฐบาลจึงเหมือนกับการดำรงอยู่ของการบินไทย
นั่นก็คือ เป็นการดำรงอยู่ขณะที่ความเชื่อมั่นลดน้อยถอยลงเป็นลำดับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน