ป้องกันละเมิดเด็ก
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
ป้องกันละเมิดเด็ก – คดีล่วงละเมิดเด็กช่วงเวลานี้สะเทือนใจคนในสังคมอย่างยิ่ง และตอกย้ำว่าเป็นอีกเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องการ์ดไม่ตก
คำว่าการ์ดไม่ตกสำหรับกรณีโควิดอาจชัดเจนว่าเป็นมาตรการเว้นระยะห่าง รักษาอนามัย ส่วนการ์ดไม่ตกสำหรับคดีล่วงละเมิดเด็กเป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่า แต่ต้องอาศัยความร่วมมือในระดับเดียวกัน
เหตุล่วงละเมิดเด็กโดยผู้ปกครอง โดยครูอาจารย์ หรือโดยเจ้าหน้าที่รัฐ มักถูกปกปิดโดยการใช้อำนาจอันมิชอบของผู้กระทำ
อีกทั้งมักเกิดจากบุคคลที่ไม่เคารพสิทธิความเท่าเทียมของมนุษย์ เห็นเด็กมีสถานะด้อยกว่าอ่อนแอกว่า และอยู่ภายใต้การควบคุมที่ง่ายกว่า
สําหรับการแก้ไขกรณีสะเทือนใจที่เกิดขึ้นแล้ว คือการเยียวยาเด็ก และลงโทษผู้กระทำผิด
คดีที่ครูกระทำต่อเด็กในโรงเรียนที่จังหวัดมุกดาหารเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐให้ความสนใจในระดับสูง เช่นเดียวกับองค์กรสิทธิเด็กระหว่างประเทศที่ติดตามและมีแถลงการณ์
ยูนิเซฟ ระบุว่าเหตุการณ์เลวร้ายนี้แสดงถึงความล้มเหลวในการปกป้องคุ้มครองเด็กในโรงเรียน และควรเป็นจุดเปลี่ยนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมกันปรับปรุงโดยด่วน
แม้องค์กรชื่นชมกระทรวงศึกษาธิการที่ติดตามกรณีนี้อย่างจริงจัง แต่ก็ขอให้พิจารณาทบทวนถึงประสิทธิภาพของมาตรการคุ้มครองเด็ก กลไกการเฝ้าระวัง และแนวทางการดูแลช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุรุนแรงในโรงเรียน
เพื่อให้โรงเรียนเป็นสถานที่ที่เด็กรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
ส่วนกรณีเด็กถูกผู้ปกครองหรือญาติใกล้ชิดล่วงละเมิด จะเห็นได้ว่าแต่ละกรณีที่ได้รับการแก้ไขและนำเด็กเข้าสู่กระบวนการเยียวยา เกิดหลังจากมีการร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือสื่อมวลชนให้สังคมรับทราบ
การเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ แม้เป็นเรื่องสะเทือนใจ แต่เทียบไม่ได้กับการเก็บเรื่องเงียบไว้และปล่อยให้การล่วงละเมิดดำเนินต่อไป หรือเพิ่มจำนวนเหยื่อมากขึ้น
ดังนั้น การรณรงค์ให้คนในสังคมต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ เป็นเรื่องที่ต้องผลักดันในทุกวงการ
เช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ต้องเคารพสิทธิเด็กให้เท่าเทียมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ก็เป็นเรื่องสำคัญ