บทบรรณาธิการ : ก่อนจะเดินหน้า

ก่อนจะเดินหน้า : การรำลึกเหตุการณ์เดือนพฤษภา 53 ในสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่น่าจะมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด เพราะเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นช่วงที่สถานการณ์ตึงเครียดที่สุด และเกิดความสูญเสียมากที่สุด

นับจากวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่เริ่มมีการใช้ความรุนแรงและเกิดความสูญเสีย จากนั้นทยอยมีมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 19 พฤษภาฯ ที่เป็นช่วงรุนแรงที่สุด

แม้ว่าการชุมนุมรำลึกเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ได้ เนื่องจากรัฐยังประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด แต่การทำพิธีทางศาสนา การแสดงความเห็น หรือการแสดงออกที่ไร้ความรุนแรง ควรเป็นเรื่องที่เปิดโอกาสให้กับผู้คนในสังคมประชาธิปไตย

โดยเฉพาะญาติและครอบครัวผู้สูญเสียไม่ควรถูกปิดกั้นด้วยการข่มขู่คุกคามซ้ำเติมอีก

ก่อนหน้านี้ มีคำกล่าวเตือนจากเจ้าหน้าที่รัฐถึงบุคคลต่างๆ ให้ระวังที่จะพูดหรือแสดงออกถึงเรื่องในอดีตที่ละเอียดอ่อน มีความสูญเสีย และเป็นความขัดแย้งของคนในสังคม พร้อมระบุด้วยว่าฝ่ายทหารก็สะเทือนใจและเสียใจเหมือนกัน

ส่วนกิจกรรมที่มีผู้ยิงเลเซอร์ข้อความ “ตามหาความจริง” ซึ่งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมให้กับผู้สูญเสียและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางนั้น ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นการจุดประกายความขัดแย้งของสังคม ไม่เดินหน้า แต่กำลังถอยหลัง

ข้อสรุปดังกล่าวนี้ตีความย้ำสู่ความคิดเดิมได้ว่าให้ยอมๆ กันไป หรือให้ลืมกันไป

ทั้งที่สังคมประชาธิปไตยจะปล่อยให้ทำเช่นนั้นไม่ได้

สําหรับสังคมประชาธิปไตย การจะเดินหน้าต่อไปต้องอาศัยการเรียนรู้จากอดีตและปัจจุบัน ไม่ใช่การลืมหรือเพิกเฉย

โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่มีผู้คนถูกปลิดชีวิตจำนวนมาก รวมถึงคนที่บาดเจ็บและสูญเสียโอกาสในชีวิตอีกนับพัน

อาการบาดเจ็บทางกายและบอบช้ำทางใจของผู้ร่วมเหตุการณ์และญาติจะเยียวยาได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการยุติธรรมดำเนินไปได้โดยขั้นตอนปกติ กระทั่งตัดสินผู้กระทำผิด

ส่วนจะมีการให้อภัยหรืออโหสิกรรมหรือไม่ เป็นเรื่องในอนาคต แต่ขณะนี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏก่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน