FootNote : 28 ปี พฤษภาคม 2535 10 ปี พฤษภาคม 2553
ภาพแห่งเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 ไม่เพียงแต่จะประสาน เข้ากับภาพแห่ง “ความจริง” ที่ดำรงอยู่ในเดือนพฤษภาคม 2563
หากยังสอดรับกับภาพแห่งเดือนพฤษภาคม 2535 อย่างเด่นชัด
ไม่ว่าจะเป็น “ภาพนิ่ง” ไม่ว่าจะเป็นภาพ “เคลื่อนไหว” ไม่ว่าจะเป็น “ตัวละคร” อันมีความโดดเด่น
เหมือนกับแสงแห่งสปอตไลต์จะฉายจับไปยังบรรดานายทหารที่เรียกตนเองว่า รุ่น 0143 ซึ่งแทบไม่แตกต่างไปจากการดำรงอยู่ของ “บูรพาพยัคฆ์”
หากแม้กระทั่งกระบวนการของการสืบทอดอำนาจโดยผ่านตัว “รัฐธรรมนูญ” ก็ได้ปรมาจารย์คนเดียวกันเป็นคนจัดวางเอาไว้อย่างเสร็จสรรพสมบูรณ์
จากพื้นฐานการเมือง การทหาร และเนติบริกรเช่นนี้เองบทบาทของ # ตามหาความจริงจึงเข้มข้น ทรงความหมาย
หากนับจากเดือนพฤษภาคม 2535 เหตุการณ์ก็ผ่านมา 18 ปีเต็ม หากนับจากเดือนพฤษภาคม 2563 เหตุการณ์ก็เข้าสู่วาระครบ 10 ปีบริบูรณ์
ตัวละครบางตัวละครอาจล้มหายตายจากไปตามกรรมตามวาระ แต่ส่วนใหญ่ก็ยังโลดเต้นอยู่
มิได้โลดเต้นโดยตรงก็มี “ทายาท” เป็น “ตัวแทน”
ไม่ว่าผู้ได้ประโยชน์ ไม่ว่าผู้สมคบฉวยโอกาส ไม่ว่าผู้สูญเสียและได้รับผลกระทบ ล้วนยังหายใจและสามารถโลดเต้นอยู่ได้ในทางการเมือง
การฉายแสง “เลเซอร์” ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและกระทรวงกลาโหม จึงเป็นการทะลวงในเชิง “สัญลักษณ์” อันทรงความหมายและมากด้วยพลานุภาพ
เป็นความหมายในทาง “ความคิด” เป็นพลานุภาพในทาง “การเมือง”
คำถามมิได้อยู่ที่ว่า # ตามหาความจริง มีเป้าประสงค์อย่างไรในทางความคิด ในทางการเมือง หากแต่อยู่ที่ว่าสามารถเบียดแทรก เข้าไปยึดครอง “พื้นที่”ได้มากน้อยเพียงใด
บทบาทของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ บทบาทของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล บทบาทของ น.ส.พรรณิการ์ วานิช เป็นอย่างไร
ปฏิกิริยาอันสำแดงออกมาจากทำเนียบรัฐบาล ปฏิกิริยาอันสำแดงออกมาจากกระทรวงกลาโหม
ปฏิกิริยาอันสำแดงออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหล่านี้คือ “คำตอบ”
การตายเมื่อเดือนพฤษภาคมจึงมิได้โดดเดี่ยว ว่างเปล่าและไม่มีคำตอบเกิดขึ้น
__________________________________________________
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
