หากดูจากการเคลื่อนไหวของกระทรวงการคลังในเรื่องการอายัดและยึดทรัพย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ก็น่าหรอกที่จะเกิดความหวาดระแวง
เริ่มจากคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งได้เคาะตัวเลขให้ชดใช้เป็นเงินจำนวน 35,717 ล้านบาท
เป็นการเคาะตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2559
บรรดากองเชียร์อายัดและยึดทรัพย์มากด้วยความคึกคักเป็น อย่างสูง
เพราะมี”มาตรา 44″ เป็น “อาวุธ”
แต่จากเดือนกันยายน 2559 กระทั่งเดือนมิถุนายน 2560 มีอะไรคืบหน้าหรือไม่
คำตอบจาก นายวิษณุ เครืองาม ชัด
สื่อเองก็มิได้นิ่งเฉย เพราะถือว่าการอายัดและยึดทรัพย์มูลค่า 35,717 ล้านบาทจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นเรื่องสำคัญ
จึงไปตามที่กระทรวงยุติธรรม
“ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงการคลังเพราะมีคณะกรรมการสืบทรัพย์อยู่ กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการและทราบว่ามีการ ประชุมไปแล้ว”
เป็นการอธิบายจาก “กระทรวงยุติธรรม”
“กรมบังคับคดีก็มีความพร้อม ต้องดูกระทรวงการคลังดำ เนินการก่อน”
เป็นอันว่าที่ นายวิษณุ เครืองาม สรุปนั้นถูกต้อง
“ทำได้ แต่ไม่ทราบจะไปทำอะไร ที่ไหน ที่หยุดไว้เพราะยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร ที่ไหน”
หยุดทั้งกระทรวงการคลัง หยุดทั้งกระทรวงยุติธรรม
ความร้อนใจของแฟนานุแฟนที่ต้องการเห็นการอายัดและยึดทรัพย์ 35,717 ล้านบาทของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จึงน่าเห็นใจ
เพราะมีความเชื่อมั่นต่ออำนาจอันได้มาจาก “มาตรา 44″ เป็นอย่างสูง
เพราะทุกอย่างเริ่มมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2559
ไม่น่าเชื่อว่า จะมีปัจจัยอะไรทำให้อำนาจจาก”มาตรา 44″ต้องงันชะงัก
เหมือนกรณี”ธรรมกาย” เหมือนกรณี”รถกระบะ”