FootNote:หยิบเพื่อไทยมาเป็น‘เหยื่อ’สร้างเอกภาพพลังประชารัฐ
แม้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะออกมาปัดปฏิเสธข่าวพรรคเพื่อไทยจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ อย่างทันทีทันควัน
แต่ข่าวการดึงพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมรัฐบาลก็ยังเดินหน้าต่อไปด้วยความคึกคัก
คึกคักเหมือนการปล่อยข่าวในเรื่อง “ซูเปอร์ดีล” เพียงแต่ปฏิบัติการปล่อยข่าวในเรื่อง”ซูเปอร์ดีล”จะผ่านอดีต นักการเมืองปากกล้าบางคน ระบุทั้งเวลาและสถานที่ของการนัดพบในห้วงก่อนเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
ขณะที่ปฏิบัติการปล่อยข่าวในเรื่องพรรคเพื่อไทยหลังสุดอาศัยจุดอ่อนจากกรณีเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจกับบางเครือข่ายของพรรคไทยรักไทยเดิมเป็นสะพานเชื่อม
เป้าหมายมิได้อยู่ที่จะดึงพรรคเพื่อไทยจริงหรือไม่ หากแต่อยู่ที่ต้องการกำราบภายพรรคพลังประชารัฐ
ต้องการขู่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
หากติดตามรายละเอียดผ่านปฏิบัติการของแต่ละเครือข่ายสื่อรัฐบาล สื่อ”พลังประชารัฐ”จะจับได้ในความละเอียดอ่อนของเส้นทางสายข่าว
1 อ้างอิงผลพลอยได้จากคดีกรุงไทยต่อ นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่อัยการสั่งไม่ฟ้องอย่างเด็ดขาด
1 อ้างอิงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของคนไทยรักไทย”เดิม”
ไม่ว่าจะเป็นความลึกซึ้งที่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ มีกับพรรคไทยรักไทย มีกับพรรคพลังประชาชน และมีกับพรรคเพื่อไทย
ไม่ว่าจะโยนหินถามทางในเรื่อง”หมอหน่อย”
ชี้ให้เห็นถึงการรุกคืบเข้ายึดพรรคพลังประชารัฐไม่ว่าจะโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รวมถึง นายอนุชา นาคาศัย
ล้วนแล้วแต่เคยมีบทบาทตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย
คล้ายกับเป็นการฟื้นคืนชีพแห่ง”ระบอบทักษิณ”อีกคราหนึ่ง
มีความเป็นไปได้ที่ปฏิบัติการ IO กระสวนนี้จะได้รับการกระพือโหมอย่างดุเดือด รุนแรง วิลิศมาหรา มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
เพราะสอดรับกับการปกป้อง”กลุ่ม 4 กุมาร”
เพราะการปกป้อง “กลุ่ม 4 กุมาร”เท่ากับเป็นการปกป้องภาพลักษณ์และความสำเร็จของรัฐบาลภายหลังรัฐประหารเดือน พฤษภาคม 2557
ต่อเนื่องมายังการปกป้องรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
ในที่สุดคือปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา