FootNote:กลิ่นแห่งคดีธรรมกายอวลกรุ่น มาถึงคดีริบบิ้นขาว‘วันเฉลิม’
พลันที่มีการตั้งข้อหาต่อการเคลื่อนไหวติด”ริบบิ้นขาว”ของนักกิจ กรรมจากสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อกรณี #Safe วันเฉลิม
คนในแวดวงทางการเมืองก็กระสา”กลิ่น”การตั้งข้อหาต่อกรณีการจัดการกับ”ธรรมกาย”ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
จำได้หรือไม่ว่ามี”ข้อหา”หลายข้อหาที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างสูง แม้ว่าจะเริ่มต้นสกัดการเคลื่อนไหวผ่านพรบ.การจราจรทางบก แต่ก็ลงเอยด้วยข้อหาหนึ่งจับกุมกำแพงวัดเป็นของกลาง
ต่อกรณีของสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เริ่มต้นด้วยคำขู่ว่าอาจผิดต่อพรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ในที่สุดลงเอยด้วยความผิดตามพรบ.ความสะอาด
เด่นชัดอย่างยิ่งว่าแต่ละเป้าหมายของการตั้ง”ข้อหา”ล้วนเพื่อสกัดขัดขวางในทางการเมืองเพราะรู้ดีว่าเป้าหมายของสห ภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยคืออะไร
คือการแสดงออกเชิง”สัญลักษณ์” คือการแสดงความรู้สึกอันเป็นการ #Safe วันเฉลิม
การเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยมีจุดเริ่มจากการหายตัวไปของ ต้าร์ วันเฉลิม กลางกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน
เป็นการหายตัวไปเพราะปฏิบัติการ”อุ้ม”อย่างอุกอาจปรากฏภาพให้เห็นผ่านกล้องวงจรปิด
แต่ในเบื้องต้นไม่ได้รับความสนใจจากทางการไทยอย่างกระตือรือร้น ไม่ว่าเมื่อมีผู้ถามกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ว่าเมื่อมีผู้ถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กลายเป็น”ปฏิกิริยา”ในทางสังคมจากในโลก”โซเชียล มีเดีย” กระทั่งมีการชุมนุมเคลื่อนไหวแม้จะอยู่ระหว่างการประกาศและบังคับใช้พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินก็ตาม
ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการติด”ริบบิ้นขาว”หน้ากองทัพบก หน้ากระทรวงกลาโหมและลงเอยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แล้วก็ถูกจับกุมตัวด้วยความผิดพรบ.ความสะอาดในที่สุด
แม้การจับกุมตัวนักกิจกรรมจะเป็นการตั้งข้อหาโดยพนักงานสอบ สวนแห่งสน.ปทุมวัน แต่แวดวงทางการเมืองก็รู้ว่าเป็นข้อหาที่คิดประดิษฐ์สร้างมาจากทำเนียบรัฐบาล
โดยอดีตนายตำรวจใหญ่ที่ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีคนสำคัญคนหนึ่ง
เป็นคนเดียวกันกับที่เคยได้รับมอบหมายให้จัดการ”ธรรมกาย”
ผลจะเป็นเช่นคดี”ธรรมกาย”หรือไม่ ไม่นานมี”คำตอบ”
