FootNote:ปรากฏการณ์ #Sefeวันเฉลิม กับท่าที ประยุทธ์ พลังประชารัฐ
พลันที่กรณีการหายไปของ ต้าร์ วันเฉลิม อยู่ในความรับผิดชอบของ “สหประชาชาติ” เรื่องราวของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ก็ยกระดับขึ้นสู่ความเป็นสากลโดยอัตโนมัติ
นี่จึงมิได้เป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะรู้จักหรือไม่รู้จัก สนใจหรือไม่สนใจ
นี่จึงมิได้เป็นเรื่องที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย จะรู้จักหรือไม่รู้จัก
ในความเป็นจริงที่กรณีของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ได้กลายเป็นประเด็น กลายเป็นวาระ กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ต่างหากคือโจทย์สำคัญของสังคมไทย
เพราะการหายไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างสูง เนื่องจากเกิดขึ้นอย่างอุกอาจกลาง มหานครพนมเปญ พร้อมหลักฐานอันแจ้งชัด
แม้จะถูกเพิกเฉยเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นในเบื้องต้นแต่ด้วยการผลักดันในทางสังคมจึงกลายเป็นเรื่องระดับชาติ ระดับสากล
แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับมายังรัฐบาลไทย
ท่าทีของรัฐบาลไทยจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงในทางการ เมืองทั้งการเมืองระดับชาติ และการเมืองในระดับนานาชาติ โดยมีกรณีของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นเนื้อหาใจกลาง
ความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือท่าทีของรัฐบาล ท่าทีของกลไกอำนาจรัฐทางด้านความมั่นคง
ปรากฏการณ์ที่ไม่ควรมองข้ามในสังคมก็คือ ด้านหนึ่ง มีการ เคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่โดยเฉพาะสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย เคลื่อนไหว #Safeวันเฉลิม
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง มีความพยายามในการสกัดขัดขวางการเคลื่อนไหวของสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ตั้งแต่เข้าไปจับกุมกระทั่งคุกคามเป็นรายตัว
คำถามก็คือทั้งๆที่แม้กระทั่งสหประชาชาติก็สนใจกับการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เหตุใดการเคลื่อนไหว เพื่อ #ตามหาความจริง จึงกลายเป็นสิ่งต้องห้าม
เมื่อนำเอาพรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมาใช้ไม่สะดวกก็นำเอาพรบ.รักษาความสะอาดมาเป็นเครื่องมือ
เป้าหมายเพื่อสกัดขัดขวางทั้งๆที่เป็นการค้นหา”ความจริง”
ท่าที 2 ท่าทีระหว่างสหภาพนักเรียน นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย กับการสกัดขัดขวางโดยกลไกอำนาจรัฐทางด้านความมั่นคงกำลังเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากยิ่งขึ้น
เพราะกรณีการหายตัวไปของ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ดำรงอยู่ในลักษณะ #Safeวันเฉลิมแล้วอย่างเด่นชัด
แสงแห่งสปอตไลต์ย่อมฉายจับไปที่บทบาทของ”รัฐบาล”
