คอลัมน์ รายงานพิเศษ : มะเร็งตับไร้อาการต้องหมั่นตรวจ

มะเร็งตับ – กลับมาเป็นโรคที่ถูกกล่าวถึงกันมากในขณะนี้ หลังดารา ผู้กำกับฯ ชื่อดัง ‘ตั้ว ศรัณยู วงษ์กระจ่าง’ เสียชีวิตด้วยมะเร็งตับ ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกและสร้างความกังวลประชาชน

โรคมะเร็งตับถือเป็นโรคใกล้ตัวและพบได้บ่อยมากที่สุด เป็นมะเร็งที่มีการเจริญเติบโตของโรคอย่างรวดเร็ว และมักเสียชีวิตภายในระยะเวลาไม่เกิน 3-6 เดือน หากตรวจพบในระยะสุดท้าย

โดยทั่วไปแล้วโรคมะเร็งตับจะไม่มีอาการเตือนใดๆ ที่จะบอกผู้ป่วยว่า กำลังจะเป็นมะเร็งตับ เมื่อมีอาการเตือนมะเร็งตับก็ลุกลามไปจากระยะแรกแล้ว

มะเร็งตับ

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์

 

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดปีละ 122,757 ราย มะเร็งตับและท่อน้ำดีถือเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ในเพศชายและอันดับ 2 ในเพศหญิง จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย (ปี 2558) พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ 20,671 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,912 ราย

มะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิดคือ มะเร็งของเซลล์ตับ และมะเร็งท่อน้ำดีตับ โดยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

สาเหตุของมะเร็งตับเกิดจากการเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี

ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดีเกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรต) และไนไตรต์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ฯลฯ

นอกจากนี้ การดื่มสุราเป็นประจำ การรับสารพิษอะฟลาทอกซินที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซี ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้

มะเร็งตับ

นพ.จินดา โรจนเมธินทร์

 

นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเกี่ยวกับอาการของมะเร็งตับว่า ผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแสดงแตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น

หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เช่นการตรวจเลือดดูความผิดปกติการทํางานของตับ การตรวจระดับอัลฟาฟีโตโปรตีน การอัลตราซาวด์เพื่อดูก้อนที่ตับ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก เป็นต้น

ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดีมีหลายวิธี ซึ่งจําเป็นต้องประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เนื่องจากมีปัจจัยที่ต้องคํานึงหลายประการ

สำหรับการป้องกันโรคทำได้ โดยการให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ รับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น อาหารที่อาจปนเปื้อนสารอะฟลาทอกซิน อาหารที่มีดินประสิว และอาหารหมักดอง เป็นต้น

หากสงสัยว่า มีความเสี่ยงต่อมะเร็งตับควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคตับเรื้อรังหรือมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ ควรรับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างทันท่วงทีและลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน