FootNote:สัญญาณจากพลังประชารัฐ สัญญาณเตือน‘ปรับครม.’
ไม่ว่าปัญหาอันกำลังเกิดขึ้นกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าปัญหาอันกำลังจะเกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์มีรากฐานมาจากจุดเดียวกัน
นั่นก็คือ จุดที่ยังไม่ลงตัวอย่างเพียงพอกับการบริหารจัดการในเรื่อง “ตำแหน่ง”ทางการเมือง
จึงพุ่งเป้าไปยังตำแหน่ง”กรรมการบริหารพรรค”
เพียงแต่พรรคพลังประชารัฐไม่สามารถบริหารจัดการได้โดยราบรื่น เรื่องจึงถลำลึกลงไปถึงระดับที่จะต้องมีการยื่นใบลาออกของ 18 กรรมการบริหารพรรค
เพื่ออาศัยรูปการณ์ประชุมของพรรคนำไปสู่การเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีความเขี้ยวมากกว่า
ผู้กุมอำนาจพรรคประชาธิปัตย์จึงผ่อนคลายด้วยการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เรียกประชุม ส.ส.พรรคเพื่อบริหาร จัดการกับปัญหา
เท่ากับเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมได้อย่างทันท่วงที
ปัญหาของพรรคพลังประชารัฐในขณะนี้ยืนยันอย่างเด่นชัดว่าเหตุ ใด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงต้องการเข้าไปยึดกุมการนำของ พรรคเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ
เพราะแม้จะเคยส่งคนของตนไปแจ้งให้มีการปรับเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แต่ถูกปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
ร่องรอยแรกของการปฏิเสธไม่เพียงแต่ไม่ยินยอมลาออกเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค อย่างนุ่มนวล หากแต่ยังก่อการโต้กลับด้วยปฏิบัติการข่าว
นั่นก็คือ ต้องการให้ดื่มสุราแต่ไม่ยอมสุรา จึงจำเป็นต้องรินแล้วบังคับให้ดื่มแบบกรอกปาก
เป็นการกรอกปากผ่าน 18 กรรมการบริหารยื่นใบลาออก
คำปลอบใจที่ว่า กลุ่ม 3 ป.ยึดกุมการนำภายในพรรคพลังประชารัฐได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดจึงไม่เป็นความจริง เพราะเป็น จริงบรรดา”กลุ่ม 4 กุมาร”จะกล้าแข็งขืนและตอบโต้เช่นนี้หรือ
นี่คือจุดที่แตกต่างกันระหว่างภายในพรรคพลังประชารัฐกับภายในพรรคประชาธิปัตย์
จากภาวะปั่นป่วนภายในพรรคพลังประชารัฐ จากภาวะปั่นป่วนภายในพรรคประชาธิปัตย์จึงเท่ากับเป็นเสียงระฆังเตือนไปยังภาวะที่จะตามมาในอนาคตอันใกล้
ไม่ว่าฝ่ายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมั่นใจในอำนาจ ที่มีอยู่ในมือมากเพียงใด
แต่หากปรับครม.เมื่อใดปัญหาก็จะปะทุเมื่อนั้น
ไม่เพียงแต่ปัญหาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ หากแต่ยังเป็นปัญหาในพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย
ทั้งหมดนี้คือ “มรสุม” การเมืองที่รออยู่ในอนาคตอันใกล้