เหมือนกับการออกมาประหมัดระหว่าง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ จะเป็นมวยถูกคู่
ตอนแรก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อาจประมาท
ประมาทเพราะประเมินว่าพื้นฐานของ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร มิได้เป็นนักกฎหมาย
เพราะดูเหมือนว่าจะเป็นอาจารย์ที่”รัฐศาสตร์”
กระนั้น ความโดดเด่นเป็นอย่างมากของ นายสมชัย ศรีสุทธิ ยากร คือความเป็น “นักการตลาด”
คือเป็น “นักรัฐศาสตร์” ผสมกับ “นักการตลาด”
ลีลาในแบบเห็น “หอเอน”เมืองปิซ่า อิตาลี แล้วเขียนออกมาว่า จำเป็นต้อง “เอน”ก็ฝีมือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นี่แหละ
การประหมัดว่าด้วย”เซ็ต ซีโร่”จึง “ร้อนแรง”
จุดอ่อนกระทั่งกลายเป็นความประมาทอันมาจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อย่างหนึ่ง คืออาการ”ลืม”
“ลืม” ไปตามวัยและสังขาร
ทำให้มองข้ามสภาพความเป็นจริงที่กกต.อุดมไปด้วย”นักกฎ หมาย” ระดับเอ้อยู่หลายคน
จึงไม่รู้ว่าเหตุใด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จึงแม่นกฎหมาย
อย่าง นายศุภชัย สมเจริญ ก็ไม่ธรรมดาเพราะเคยเป็นผู้พิพากษาจากศาลฎีกามาก่อน
ไม่เพียงแต่มากับสำนวน”เป็นเสือต้องไม่ร้อง”
หากเมื่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ขู่ว่าให้ระวังจะหลุดจากรักษาการกันทั้งยวงและอาจยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้
คำยืนยันจาก นายศุภชัย สมเจริญ คือ
“จะใช้ช่องทางใดในการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้นยังบอกไม่ได้ถือเป็นอาวุธลับ
“เพราะทุกฝ่ายก็มีอาวุธลับเป็นของตัวเอง”
เด่นชัดอย่างยิ่งว่า บรรดาอดีต”ผู้พิพากษา”ที่ดำรงอยู่ภายในกกต.นั้นเองคือ “อาวุธลับ”
1 เป็นอาวุธลับให้กับ “กกต.”
ขณะเดียวกัน 1 ซึ่งสำคัญก็คือ ช่วยเสริมเติม”เขี้ยวเล็บ”ทางด้านกฎหมายให้กับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร
เท่ากับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ครบเครื่อง
นักรัฐศาสตร์ นักการตลาด และนักกฎหมาย คึกคัก
