FootNote:เหตุใดระดับ สมศักดิ์ เทพสุทิน จึงร้องเพลงรอกรณีปรับครม.
ไม่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ไม่ว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ มีประสบการณ์และบทเรียนในการต่อสู้ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน
ยาวนานก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ยาวนานก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
ไล่ไปถึงก่อนรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ด้วยซ้ำ
พวกเขารู้อยู่เป็นอย่างดีว่า ภายหลังรัฐประหารบรรดานักรัฐประหารจะมีจังหวะก้าวในการยึดครองและกุมอำนาจทางการเมืองอย่างไร
ความรอบรู้ของนักการเมืองเหล่านี้มิได้จำกัดแต่เพียงพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น หากแต่ย้อนไปไกลจนถึงพรรคเสรีมนังคศิลา พรรคชาติสังคม พรรคสหประชาไทย
และบรรยากาศการเกิดขึ้นของพรรคสามัคคีธรรมในยุครสช.ก็ยังมิได้จางจากหายไป
ทำไมจะไม่รู้และตระหนักในหลักการ”รอคอยโอกาส”
อย่าได้แปลกใจในความร้อนรุ่มของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ประสานเข้ากับความฮึกเหิมที่เข้ายึดครองตำแหน่งเลขาธิการพรรคของ นายอนุชา นาคาศัย
จะได้ยินเสียงปรามทุ้มนุ่มจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ว่าการปรับครม.ยังอีกนาน
มิได้เกิดขึ้นภายในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน
ยิ่งเห็นอาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งเห็นอาการของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ยิ่งเห็นอาการสงบนิ่งของเหล่า”4 กุมาร”
มีหรือที่ระดับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะมองไม่ออก
พวกเขาอดทนจากก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 กระทั่งถึงเดือนมิถุนายน 2563 ก็สามารถปลดหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ลงได้เรียบร้อย
แล้วเหตุใดจะไม่สามารถร้องเพลง”รอ”อีกระยะเวลาหนึ่ง
ความเป็นจริงในทางเศรษฐกิจ ความเป็นจริงในทางการเมือง ต่างหากคือปลายแส้ที่จะหวดตีไปอย่างต่อเนื่องราวกับระลอกคลื่นอันใหญ่หลวงขึ้นเป็นลำดับ
ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยื้อเวลาในการปรับครม.ออกไปยาวนานเพียงใด
ปัญหาในทางเศรษฐกิจ การเมือง ก็จะยิ่งรุมเร้าเข้ามา
