FootNote : สงคราม ตัวแทน พลังประชารัฐ สงคราม สมคิด จาตุศรีพิทักษ์

หลังการประชุมใหญ่พรรคพลังประชารัฐเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ฐานะของ “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็อยู่ในลักษณะถูกรุกไล่อย่างสัมผัสได้ในทางรูปธรรม
ไม่เพียงแต่ นายอุตตม สาวนายน จะถูกแทนที่โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
หาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็โดย นายอนุชา นาคาศัย
ยิ่งกว่านั้น ไม่ว่า นายชวน ชูจันทร์ ไม่ว่า นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ล้วนถูกปลดทิ้งในลักษณะที่เรียกได้ว่า “ล้างบาง
สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐจึงอยู่ในสภาพสงบเงียบ ไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวใดๆจาก นายอุตตม สาวนายน หรือ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
หรือแม้กระทั่ง สายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งมากด้วยสำนวนเปรียบ เปรยอันคมคาย
ตรงกันข้าม บทบาทนี้กลับตกอยู่กับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
เป็นบทบาทที่ออกมาปกป้อง “กลุ่ม 4 กุมาร” ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม
ถือเอา “การปรับครม.” เป็นป้อมปราการใหญ่

ความน่าสนใจก็คือ บรรดาบิ๊กๆทั้งหลายในพรรคพลังประชารัฐกลับนิ่งฟังเสียงจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อย่างสงบ คำน้อยก็มิได้ออกมาตอบโต้
มีเพียง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เท่านั้นที่ออกมาระบุสั้นๆว่า การปรับครม.”น่าจะอีกนาน”
กระนั้น หากกล่าวสำหรับไพร่ราบทหารเลวกลับคึกคัก
ไม่ว่าจะเป็น นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ จากนราธิวาส ไม่ว่าจะเป็น นายภิญโญ นิโรจน์ จากนครสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็น นายชัยวุฒิ คมาธนานุสรณ์ จากสิงห์บุรี
หรือแม้กระทั่ง นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ จากฉะเชิงเทรา
ปลายหอกล้วนพุ่งเข้าใส่ยอดอกของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ โดยพร้อมเพรียงกัน
ทุกอย่างดำเนินไปในรูปของ “สงครามตัวแทน”

แม้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่างออกมาปรามบรรดา ส.ส.มิให้แสดงปฏิกิริยาตอบโต้
ควรให้เกียรติ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
แต่เชื่อได้เลยว่า บรรยากาศแห่งการคิดบัญชีต่อแต่ละคำพูดของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะไม่ยุติลงอย่างง่ายดาย
เพราะรู้ดีว่าเป้า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คืออะไร

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน